หยุดคำถามเชิงประชดประชันกับลูกคุณได้แล้ว
เป็นกันบ้างไหมครับเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ เห็นลูกทำพฤติกรรมที่ไม่น่ารักต่างๆ แทนที่จะเตือนตรงๆ คุณพ่อคุณแม่มักจะใช้คำถามเชิงประชดประชัน โดยอันที่จริงนี่เราไม่ได้ต้องการคำตอบหรอกนะครับ แต่ถามเสียดสี ประชดไปอย่างงั้นล่ะครับ เช่น เห็นนั่งดูทีวีไม่ยอมทำการบ้าน แทนที่คุณพ่อคุณแม่จะพูดเตือนตรงๆ ว่า "ทำการบ้านสิลูก ทำเสร็จแล้วค่อยมาดูทีวี" คุณพ่อคุณแม่บางท่านมักจะถามคำถามประชดประมาณว่า "ครูเขาให้การบ้านมานั่งดูทีวีหรือ" หรือ "นั่งดูทีวีแล้วทำให้การบ้านมันเสร็จได้รึไง" ฯลฯ
หรือในกรณีที่คุณครูสอนบทเรียนให้แก่นักเรียนนี่ก็เหมือนกันครับ เช่นในกรณีที่นักเรียนไม่เข้าใจบทเรียนที่ครูเคยสอน และอธิบายไปแล้ว เผลอๆ เคยมีนักเรียนคนอื่นเคยถามคำถามนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ แทนที่ครูจะตอบนักเรียนไปตรงๆ ว่า "คำถามนี้ครูเคยตอบไปแล้วนะ ให้ลองไปอ่านที่จด หรือลองถามเพื่อนดูก่อนนะ" ครูบางท่านก็ไม่ตอบตรงๆ แบบนี้นะครับ แต่ถามแทนว่า "ชอบให้ครูตอบคำถามซ้ำๆ หรือ ไม่เบื่อหรือไง" หรือ "ครูเคยอธิบายไปแล้ว เธอหูหนวกหรือ" ฯลฯ
ผมได้อ่านบทความทางด้านการศึกษาที่ชื่อว่า Don't let pupils answer back, head urges teachers. (http://www.telegraph.co.uk/…/Dont-let-pupils-answer-back-he…) ซึ่ง Trevor Averre-Beeson ได้ให้ทรรศนะไว้ว่า - - การถามคำถามเชิงประชดประชันแบบนี้ ไม่ได้ประโยชน์ในการหยุดพฤติกรรมที่ไม่ดีของเด็กเลยนะครับ หนำซ้ำยังเป็นการทำให้เด็กเก็บกด บ่มเพาะความก้าวร้าว ซึ่งในสุดท้ายการถามคำถามเชิงประชดประชันแบบนี้ จะเป็นการบีบให้เด็กระเบิดอารมณ์ โดยตอบด้วยคำตอบกวนๆ กลับมา ซึ่งจะนำไปสู่การเถียงกับคุณพ่อคุณแม่ หรือคุณครูอย่างก้าวร้าวได้ครับ - - ซึ่งไม่เป็นผลดีเลยใช่ไหมครับ
แทนที่เราจะพูดว่า "ขนมตกพื้นแล้วลูก เก็บไปทิ้งด้วย ตรงข้างขาโต๊ะนั่นล่ะ" ดันไปถามว่า "เศษขนมตกพื้นแล้ว มองไม่เห็นรึไง ตาบอดหรือ" พอเด็กต้องทนรับกับคำถามในลักษณะแบบนี้ทุกวัน สุดท้ายเด็กก็จะเก็บกดไม่ไหว สวนมาสักวันว่า "ใช่ครับ ผมคงตาบอดมั้ง" นั่นไงครับ คราวนี้คุณพ่อคุณแม่ขึ้นเลยใช่ไหมครับ - - แล้วมันเป็นผลดีหรือครับ ยิ่งเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ในบ้าน หรือในห้องเรียนบ่อยๆ สุดท้ายมันจะบ่มเพาะให้เด็กกลายเป็นคนก้าวร้าวไปเลยนะครับ - -
แต่ถึงอย่างไร ถ้ามีกรณีที่ลูกเถียงกับคุณพ่อคุณแม่ หรือนักเรียนเถียงกับคุณครู เกิดขึ้น คำถามก็คือ เราควรทำอย่างไรดี บทความที่ชื่อว่า Avoiding Power Struggles with Students. The dos and don'ts of dealing with classroom confrontations. โดย Robert McNeely (http://www.nea.org/tools/49922.htm) มีข้อแนะนำที่ดีมากๆ นะครับ
- ถ้าระหว่างที่เด็กเถียงเรากลับมา และมีคนอื่นๆ อยู่ด้วย เราต้องอย่าไปเถียงอะไรกลับ หรือพูดอะไรที่เป็นการทำให้ลูกเรารู้สึกเสียหน้านะครับ เช่น - - เก่งที่ไหนกัน ผ้าห่มแม่ยังเก็บให้อยู่ทุกวันอยู่เลย - - คือ ถ้าลูกเรารู้สึกอาย รู้สึกเสียหน้า เขาจะยิ่งตอบโต้เรากลับมาด้วยท่าทีที่ไม่น่ารัก หรือถ้าเงียบไป มันก็จะเป็นการเสียความรู้สึกที่รุนแรงมากครับ ที่สำคัญที่สุด - - การทำให้เขาเสียหน้า ไม่ใช่ทางออกที่จะปรับพฤติกรรมที่ไม่ดีของเขาได้เลยครับ ยิ่งทำให้ช่องว่างความไม่เข้าใจระหว่างกันกว้างขึ้นออกไปอีก ด้วยซ้ำครับ - -
- เลิกคิดครับว่า - - คนพูดคนสุดท้าย เป็นผู้ชนะ - - ลูกเถียงมา แม่เถียงกลับ ลูกเถียงกลับมาอีก เถียงไปเถียงมาไม่ดีเลยครับ ในกรณีที่ลูกเถียงกลับมา เราควรจะเงียบเลยครับ และพอที่อารมณ์ครุกรุ่นมันหายไป แล้วค่อยมาคุยปรับความเข้าใจกันก็ได้ครับ
- ในระหว่างที่พูดคุยกัน บทความนี้แนะนำว่า ให้พูดด้วย - - I Statements - - ไม่ใช่ - - You Statements - - คืออย่างนี้ครับ เวลาที่เราปรับความเข้าใจกัน อยากให้คุณพ่อคุณแม่ หรือคุณครู พูดในมิติของตนเอง เช่น "ที่แม่พูดก็เพื่อให้เราเก็บเศษขนมที่ตกพื้นไปทิ้งแค่นั้นเองลูก" เห็นไหมครับคือเราพูดในมิติของตัวเอง ไม่ใช่พูดว่า "ก็ลูกกินขนมหกเลอะเทอะ บ้านก็สกปรก ลูกเป็นแม่ก็ต้องโกรธ" คือ การพูดในมิติของลูก มันเหมือนกับว่าเราพยายามที่จะโบ้ยว่าความผิดทั้งหมดมันเป็นของเขาน่ะครับ ซึ่งแบบนี้ไม่มีทางที่จะคุยกันได้เข้าใจหรอกนะครับ แม้ว่าลูกจะเงียบไป ความเงียบของเขามันไม่ได้สะท้อนว่าเขาเข้าใจ หรือเขาปรับสภาพจิตใจได้นะครับ เขาอาจจะคิดแค่ว่า - - ช่างมันเหอะ พูดไป ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น - - ซึ่งความรู้สึกเก็บกดแบบนี้ บ่มเพาะไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้เด็ก มีนิสัย ก้าวร้าวเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ครับ
ดังนั้นต่อแต่นี้ เห็นลูก หรือเห็นลูกศิษย์ ทำอะไรไม่น่ารัก ก็พูดเตือนตรงๆ เลยครับ อย่าถามด้วยคำถามประชดประชันครับ เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย
.................................................
บทความโดย ดร.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร
ร่วมสนับสนุนบทความดีๆ โดย
- ศูนย์การเรียนรู้ซีเอ็ด (SE-ED Learning Center: www.se-edlearning.com)
- หลักสูตรคณิตศาสตร์ FAN Math "เน้นการสร้างความเข้าใจ และความมั่นใจในการเรียนคณิตศาสตร์ ผ่านการแก้โจทย์ปัญหาที่สนุกท้าทายตามแนวทางของ PISA และ Singapore Maths" (www.fanmath.com)
- หลักสูตรภาษาอังกฤษ ACTive English "หลักสูตรภาษาอังกฤษที่เน้นสร้างความมั่นใจในการสื่อสาร ฟัง พูด อ่าน เขียน และการออกเสียง (Phonics) ในมาตรฐานยุโรป CEFR" (www.act-english.com)
www.se-ed.com ซีเอ็ด | เรามุ่งมั่นที่จะทำให้คนไทยเก่งขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น