วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2559

อายุมากขึ้นใช่ว่าจะต้องทุกข์เสมอไป!


คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 89 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “ชีวิตในปัจฉิมวัย” ค่ะ



=ภาพรวม=

หนังสือเล่มบางเฉียบแต่อัดแน่นไปด้วยสาระดีๆนี้เป็นหนึ่งในซีรี่ส์หนังสือชุด “พุทธทาส ๑๐๐ ปี หนังสือดี ๑๐๐ เล่ม” ซึ่งเป็นการคัดธรรมบรรยายของท่านพุทธทาสภิกขุ 1 เรื่องมาจัดพิมพ์ขึ้น 1 เล่ม
เล่มนี้เป็นธรรมบรรยายที่ท่านพุทธทาสแสดงไว้เมื่อเดือนมีนาคม 2523 ค่ะ
=น่าสนใจจากในเล่ม=
*  ชีวิตธรรมดาๆนั้น อยู่ไปๆ ก็แก่หง่อม แต่มีอีกหนึ่งความหมาย คือ ยิ่งอายุมาก ยิ่งเป็นหนุ่ม ยิ่งสดชื่น ไม่ทรุดโทรม  หมายความว่า ร่างกายมันก็แก่ไป แต่สติปัญญามันยิ่งหนุ่ม ยิ่งรู้มาก ยิ่งขจัดทุกข์ไปได้มาก
*  วันปรินิพพาน พระพุทธเจ้าซึ่งพระชนมายุ 80 พรรษาแล้วยังเดินทางไกลเป็นโยชน์อยู่ พอค่ำลงตอนหัวค่ำท่านก็นิพพานแบบปิดสวิทช์ไฟฟ้า ยังสดชื่นแจ่มใสอยู่ แล้วก็นิพพาน
*  ในสมัยโบราณเขานิยมคุณธรรมชนิดนี้กันเป็นสำคัญ  ไม่เหมือนกับคนสมัยนี้ที่ไม่คิดจะตายอย่างมีศิลปะเหมือนคนโบราณ
*  มหาวิทยาลัยตามธรรมชาติในประวัติศาสตร์นั้นก็คือปากของคนแก่  เด็กๆหรือคนหนุ่มก็จะมานั่งล้อมฟังคนแก่เล่าเรื่องต่างๆ ห้ฟัง เขาจึงให้เกียรติคนแก่
*  เราจงใช้ประโยชน์จากคนแก่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และก็ควรเตรียมตัวสำหรับจะเป็นคนแก่ที่มีประโยชน์มากที่สุดด้วย
*  คนหนึ่งมีชีวิตเป็นการศึกษา อีกคนหนึ่งกินๆนอนๆเหมือนหมู  คนหนึ่งมีชีวิตเป็นการเป็นงาน อีกคนมีชีวิตเป็นการเล่นหัว คนหนึ่งชนะกิเลสฝ่ายต่ำอยู่ตลอดเวลา อีกคนแพ้อยู่ตลอดเวลา ลองเปรียบเทียบกันดูว่า ปัจฉิมวัยของสองคนนี้จะต่างกันอย่างไร
*  พูดได้อีกอย่างว่า คนหนึ่งจบปัจฉิมวัย ตายลงในกลางวัฏสงสาร อีกคนตายลงกลางพระนิพพาน
*  วัฏสงสาร แปลว่า หมุนเป็นวงกลม  มันหมุนอยู่ได้เพราะของสามสิ่ง คือ  1) ความอยาก  2) การกระทำตามความอยาก  และ 3) ผลจากการกระทำ  ทั้งหมดนั้นเป็นไปด้วยความโง่
*  ถ้าเป็นไปด้วยความโง่ มันก็เต็มไปด้วยทุกข์  แต่ถ้าทำไปด้วยสติปัญญา  มันก็ไม่เป็นวัฏสงสาร เดี๋ยวมันก็หยุดจบไปเอง
*  ความหยุดดับแห่งวัฏสงสาร หาพบที่ตัววัฏสงสาร  ปัญหาเกิดที่ไหนก็ต้องแก้ที่นั่น ปัญหาเกิดที่บ้าน ไปรดน้ำมนต์ที่วัดนี้ผิดหลัก
*  คนบางคนพอแก่แล้ว ร่างกายทนไม่ได้แล้ว ก็สมัครดับไม่เหลือ ไม่ต้องมีตัวกูอีกต่อไป  อย่างนี้ก็ยังชื่อว่าตายในนิพพาน โอกาสมีจนกระทั่งวาระสุดท้าย ฉะนั้น อย่าให้พลาดโอกาสนี้
*  สมมติถูกรถชนกลางถนน มันแหลกแล้ว จะไปหวังอะไรกันนัก  ก็ให้มีความคิดว่าดับไม่เหลือ  อย่าได้ไปดิ้นรนที่จะไม่ตาย ดิ้นรนไปโรงพยาบาล  พอกันทีการเวียนว่ายตายเกิด  อย่างนี้เราจึงมีโอกาสที่จะนิพพานได้ในวินาทีสุดท้ายของชีวิต  นี่คือปัจฉิมวัยของชีวิตที่ดีที่สุด
*  ตามแบบโบราณจริงๆนี้ชีวิตเขาต้องจบอยู่ที่ประโยชน์ผู้อื่น เกิดมาทีหนึ่งก็ให้จบลงด้วยการทำประโยชน์ให้ผู้อื่น เหมือนพระพุทธเจ้า  เป็นยอดสุดของศิลปะแห่งการมีชีวิตและความตาย  งดงามที่สุด มีชีวิตอย่างนี้ ดับลงอย่างนี้
*  ขอให้เอาไปคิดดู เอาไปทำให้ได้รับประโยชน์มากที่สุด ไม่เสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์และพบพระพุทธศาสนา
 หนังสือชื่อ “ชีวิตในปัจฉิมวัย” โดย พุทธทาสภิกขุ  สำนักพิมพ์สุขภาพใจ พฤษภาคม 2548   70 หน้า ราคา 35 บาท
——————————————————————
เกร็ดน่ารู้:
*  เด็กสิงคโปร์และเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
*  คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
*  แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
 คอลัมน์  “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติค่ะ
——————————————————————-

เชิญติดตามหนังสือ“ชีวิตในปัจฉิมวัย”ได้ที่ https://goo.gl/QhCwIk

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น