=ภาพรวม=
หนังสือเล่มหนาแต่อ่านจบง่าย(เพราะบางหน้าพิมพ์แค่ไม่กี่บรรทัด เน้นกราฟฟิครอบ ๆ กรอบเนื้อหา)นี้ เป็นหนังสือที่เขียนขึ้นเพื่อมือใหม่(เอี่ยม)ที่เริ่มสนใจในการลงทุนในหุ้นเพื่อสร้าง passive income ในระยะยาว เขียนโดยกูรูการลงทุนในหุ้นชื่อดัง ภาววิทย์ กลิ่นประทุม เนื้อหาส่วนใหญ่ของเล่มย้ำประเด็นหลักอยู่เรื่องเดียว คือ นักลงทุนสามารถ “ออมในหุ้น” ได้ด้วยการเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดี มีเงินปันผล เข้าซื้อตอนมีวิกฤติหรือข่าวไม่ดีทำให้ราคาตก และถือยาวแบบไม่ขายอย่างน้อย 10 ปี หรือไม่ขายเลยจะดีที่สุด ท้ายเล่มเป็นการตอบคำถามที่มือใหม่มักถามเข้ามาในคอร์สสัมมนาของผู้เขียน อ่านจบโดยรวมแล้วรู้สึกว่าเป็นหนังสือที่เน้น “ให้กำลังใจ” คนหนุ่มสาวให้ “กล้าๆหน่อย” และเริ่มลงทุนในหุ้นได้แล้ว แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีเลือกหุ้น, การอ่านกราฟหรือดู technical ฯลฯ
=น่าสนใจจากในเล่ม=
* หุ้นพื้นฐานดีๆในตลาดสามารถขึ้นได้หลายร้อยเท่าในเวลาไม่กี่สิบปี เช่น หุ้นปูนซีเมนต์ไทย ขึ้น 400 เท่าใน 30 ปี หรือหุ้นปตท. ขึ้น 10 เท่าในเวลา 10 ปี
* ค่าเฉลี่ยตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนเกิน 12% ต่อปี ไม่รวมปันผล (แต่อีกที่หนึ่งในเล่มบอกว่า 80% ของผู้เล่นหุ้นจะขาดทุน)
* สาเหตุที่คนขาดทุนเพราะ 1) ไม่เข้าใจ ไม่มีความรู้ และ 2) ไม่มีความอดทนที่จะถือหุ้นยาวๆ
* วิธีซื้อคือใช้ technical ช่วย เครื่องมือที่ช่วยให้ดูรอบได้ดีก็เช่น RSI (Relative Strength Index) ใช้ดูว่าราคาในจุดนั้นๆ Overbought (ซื้อมากไป) หรือ Oversold (ขายมากไป)
* ให้ใช้กราฟ Week หรือ Month เพื่อมองภาพใหญ่ อย่าทำแบบคนส่วนใหญ่ที่พยายามซื้อให้ถูกที่สุด เพราะพวกนั้นในที่สุดมักไม่ได้ซื้อ
* การออมในหุ้นต้องกระจายความเสี่ยง ต้องมีหุ้นอย่างน้อย 5-10 ตัว หรือมากกว่านั้นก็ได้ ต้องอ่าน Fundamental ออกว่ามันเป็นหุ้นที่ดีและต้องปันผลสูง คือ 5-10%
* มือใหม่หัดออมหุ้น ให้เริ่มจากสักประมาณ 10% ของเงินเดือน แล้วรอจังหวะที่ตลาดหุ้นปรับฐานลงแรงๆซึ่งในปีหนึ่งจะมี 2-3 ครั้ง
* คนไทยวันนี้ทั้งประเทศเป็นหนี้ เพราะ หนึ่ง ผัดวันประกันพรุ่งความอยากไม่เป็น และ สอง ไม่รู้วิธีวางเงินให้ทำงาน
* การฝึกทำงานจริงๆตั้งแต่เด็ก (เหมือนในต่างประเทศ) หรือ เริ่มลงทุนด้วยเงินจริงๆที่ออมจากเงินจากการทำงานจะสอนให้เด็กคนนั้นรู้ค่าของเงิน สอนให้เขารู้จักโลกจริงๆว่าต้องรับมือและเรียนรู้กับความล้อมเหลวระหว่างทางเดินของชีวิตอย่างไร การลงทุนยิ่งอายุน้อยยิ่งได้เปรียบ
* ถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการ ยุคนี้หมดยุคสำหรับการลดแลกแจกแมแล้ว แต่เป็นยุคของการสร้างคุณค่ในมุมมองและความรู้สึกร่วมของลูกค้า
* วันที่คนส่วนใหญ่โง่ที่สุดก็คือ วันที่คนๆนั้นก้าวเท้าออกจากมหาวิทยาลัยแล้วหยุดหาความรู้เพิ่มเติม
* มือใหม่ส่วนใหญ่เล่นหุ้นแพง ซึ่งก็คือ หุ้นปั่น คำถามคือจะจำกัดความเสี่ยงอย่างไร คนที่มา Cut Loss ต่ำๆหลังจากขาดทุนเยอะไม่ควรเรียกว่า Cut Loss แต่ควรเรียกว่า “ฆ่าตัวตาย”
* กรณีที่เราจะรู้ว่าหุ้นถูกหรือแพงต้องเอางบการเงินมาดู เช่น ดู P/E, P/BV และ Dividend Yield ส่วนการหาจังหวะก็ใช้ technical เข้าช่วย ใช้เส้น Moving Average เพื่อช่วย Let Profit Run ได้
* หุ้นมี “รอบ” การขึ้นลงแบบชัดเจน เพราะว่ามนุษย์มี “ความโลภ” และ “ความกลัว” ขาขึ้นมันขึ้นจนเลยพื้นฐานความเป็นจริงเพราะคนมีความโลภ ขาลงหุ้นลงได้เกิน 50% เพราะคนมีความกลัว ดังนั้นจงอย่าหลงเชื่อข่าว
หนังสือชื่อ “ออมในหุ้น” โดย ภาววิทย์ กลิ่นประทุม สำนักพิมพ์ stock2morrow พิมพ์ครั้งที่ 5 มกราคม2558 256 หน้า ราคา 245 บาท
——————————————————————
เกร็ดน่ารู้:
* เด็กเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
* คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
* แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติโดยผู้วิจารณ์เลือกอ่านเองโดยอิสระไม่ได้รับจ้างสำนักพิมพ์ใดมาเขียน
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก ดร.ณัชร สยามวาลา
ติดตามหนังสือ”ออมในหุ้น” ได้ที่ https://goo.gl/aIPyPE
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น