วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2559

คนเราออมในหุ้นได้จริงหรือ?


คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 387 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “ออมในหุ้น”



=ภาพรวม=
หนังสือเล่มหนาแต่อ่านจบง่าย(เพราะบางหน้าพิมพ์แค่ไม่กี่บรรทัด เน้นกราฟฟิครอบ ๆ กรอบเนื้อหา)นี้  เป็นหนังสือที่เขียนขึ้นเพื่อมือใหม่(เอี่ยม)ที่เริ่มสนใจในการลงทุนในหุ้นเพื่อสร้าง passive income ในระยะยาว  เขียนโดยกูรูการลงทุนในหุ้นชื่อดัง ภาววิทย์ กลิ่นประทุม เนื้อหาส่วนใหญ่ของเล่มย้ำประเด็นหลักอยู่เรื่องเดียว คือ นักลงทุนสามารถ “ออมในหุ้น” ได้ด้วยการเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดี มีเงินปันผล เข้าซื้อตอนมีวิกฤติหรือข่าวไม่ดีทำให้ราคาตก  และถือยาวแบบไม่ขายอย่างน้อย 10 ปี  หรือไม่ขายเลยจะดีที่สุด ท้ายเล่มเป็นการตอบคำถามที่มือใหม่มักถามเข้ามาในคอร์สสัมมนาของผู้เขียน อ่านจบโดยรวมแล้วรู้สึกว่าเป็นหนังสือที่เน้น “ให้กำลังใจ” คนหนุ่มสาวให้ “กล้าๆหน่อย” และเริ่มลงทุนในหุ้นได้แล้ว แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีเลือกหุ้น, การอ่านกราฟหรือดู technical ฯลฯ
=น่าสนใจจากในเล่ม= 
*   หุ้นพื้นฐานดีๆในตลาดสามารถขึ้นได้หลายร้อยเท่าในเวลาไม่กี่สิบปี เช่น หุ้นปูนซีเมนต์ไทย ขึ้น 400 เท่าใน 30 ปี  หรือหุ้นปตท. ขึ้น 10 เท่าในเวลา 10 ปี
*  ค่าเฉลี่ยตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนเกิน 12% ต่อปี ไม่รวมปันผล (แต่อีกที่หนึ่งในเล่มบอกว่า 80% ของผู้เล่นหุ้นจะขาดทุน)
*  สาเหตุที่คนขาดทุนเพราะ 1) ไม่เข้าใจ ไม่มีความรู้ และ  2) ไม่มีความอดทนที่จะถือหุ้นยาวๆ
*  วิธีซื้อคือใช้ technical ช่วย เครื่องมือที่ช่วยให้ดูรอบได้ดีก็เช่น RSI (Relative Strength Index) ใช้ดูว่าราคาในจุดนั้นๆ Overbought (ซื้อมากไป) หรือ Oversold (ขายมากไป)
*  ให้ใช้กราฟ Week หรือ Month เพื่อมองภาพใหญ่ อย่าทำแบบคนส่วนใหญ่ที่พยายามซื้อให้ถูกที่สุด เพราะพวกนั้นในที่สุดมักไม่ได้ซื้อ
*  การออมในหุ้นต้องกระจายความเสี่ยง ต้องมีหุ้นอย่างน้อย 5-10 ตัว หรือมากกว่านั้นก็ได้ ต้องอ่าน Fundamental ออกว่ามันเป็นหุ้นที่ดีและต้องปันผลสูง คือ 5-10%
*  มือใหม่หัดออมหุ้น ให้เริ่มจากสักประมาณ 10% ของเงินเดือน แล้วรอจังหวะที่ตลาดหุ้นปรับฐานลงแรงๆซึ่งในปีหนึ่งจะมี 2-3 ครั้ง
*  คนไทยวันนี้ทั้งประเทศเป็นหนี้ เพราะ หนึ่ง ผัดวันประกันพรุ่งความอยากไม่เป็น และ สอง ไม่รู้วิธีวางเงินให้ทำงาน
*  การฝึกทำงานจริงๆตั้งแต่เด็ก (เหมือนในต่างประเทศ) หรือ เริ่มลงทุนด้วยเงินจริงๆที่ออมจากเงินจากการทำงานจะสอนให้เด็กคนนั้นรู้ค่าของเงิน สอนให้เขารู้จักโลกจริงๆว่าต้องรับมือและเรียนรู้กับความล้อมเหลวระหว่างทางเดินของชีวิตอย่างไร การลงทุนยิ่งอายุน้อยยิ่งได้เปรียบ
*  ถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการ ยุคนี้หมดยุคสำหรับการลดแลกแจกแมแล้ว แต่เป็นยุคของการสร้างคุณค่ในมุมมองและความรู้สึกร่วมของลูกค้า
*  วันที่คนส่วนใหญ่โง่ที่สุดก็คือ วันที่คนๆนั้นก้าวเท้าออกจากมหาวิทยาลัยแล้วหยุดหาความรู้เพิ่มเติม
*  มือใหม่ส่วนใหญ่เล่นหุ้นแพง ซึ่งก็คือ หุ้นปั่น คำถามคือจะจำกัดความเสี่ยงอย่างไร คนที่มา Cut Loss ต่ำๆหลังจากขาดทุนเยอะไม่ควรเรียกว่า Cut Loss แต่ควรเรียกว่า “ฆ่าตัวตาย”
*  กรณีที่เราจะรู้ว่าหุ้นถูกหรือแพงต้องเอางบการเงินมาดู เช่น ดู P/E, P/BV และ Dividend Yield  ส่วนการหาจังหวะก็ใช้ technical เข้าช่วย ใช้เส้น Moving Average เพื่อช่วย Let Profit Run ได้
*  หุ้นมี “รอบ” การขึ้นลงแบบชัดเจน เพราะว่ามนุษย์มี “ความโลภ” และ “ความกลัว” ขาขึ้นมันขึ้นจนเลยพื้นฐานความเป็นจริงเพราะคนมีความโลภ ขาลงหุ้นลงได้เกิน 50% เพราะคนมีความกลัว ดังนั้นจงอย่าหลงเชื่อข่าว
หนังสือชื่อ “ออมในหุ้น” โดย ภาววิทย์ กลิ่นประทุม สำนักพิมพ์ stock2morrow  พิมพ์ครั้งที่ 5 มกราคม2558  256 หน้า ราคา 245 บาท
——————————————————————
เกร็ดน่ารู้:
*  เด็กเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
*  คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
*  แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติโดยผู้วิจารณ์เลือกอ่านเองโดยอิสระไม่ได้รับจ้างสำนักพิมพ์ใดมาเขียน
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก  ดร.ณัชร สยามวาลา
ติดตามหนังสือ”ออมในหุ้น” ได้ที่ https://goo.gl/aIPyPE

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น