คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 99 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “ทิ้ง 1 ให้ได้ 100 ทิ้งน้อย ให้ได้มาก” ค่ะ
=ภาพรวม=
ผู้แต่งเล่มนี้เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในชีวิตค่อนข้างเร็ว แค่ประวัติการศึกษาเขาก็ค่อนข้างแปลกกว่าคนญี่ปุ่นทั่วไปแล้วค่ะคือไปเรียนต่อปริญญาตรีที่อเมริกา ซึ่งนี่คงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เขาหมั่น “คิดนอกกรอบ” นั่นเองค่ะ
โดยผู้แต่งแนะนำให้มีสติคอยสังเกตสิ่งต่างๆที่ “สามัญสำนึก” หรือ “สังคมรอบตัว” มักจะบอกให้เราทำนั่นเองค่ะ เพราะทางออกที่ดีที่สุดอาจไม่ใช่วิธีนั้นเสมอไป
=น่าสนใจจากในเล่ม=
* ไอน์สไตน์เคยกล่าวว่า “สามัญสำนึก คือ ผลรวมของอคติทั้งหลายที่เราได้รับมาจนอายุสิบแปด”
* ขยันไม่ถูกจุด พยายามไม่ถูกทาง ชีวิตก็ย่ำอยู่ที่เดิม ประเด็นไม่ใช่ว่าต้องทำงานหนักขึ้น มากชั่วโมงขึ้น ทำงานล่วงเวลา หรือทำงานในวันหยุด หากอยู่ที่ทำงานให้ฉลาดขึ้นและได้ผลมากกว่า จนกระทั่งสัปดาห์หนึ่งสามารถหยุดได้ถึง 3 วัน
* เพิ่มเวลาพักให้มากขึ้น แล้วจะเกิดสิ่งดีๆตามมามากมาย ช่วยให้ไม่เกิดความเครียดสะสม
* อย่ามอบงานธรรมดาๆอย่างงานขายให้กับคนเก่งทำถึงแม้เขาจะทำได้ดีกว่าคนอื่นมาก ควรมอบเวลาว่างให้เขามาก ๆ เพื่อที่เขาจะได้มีเวลาคิดและทำงานที่ “มีแต่คนเก่งเท่านั้นที่จะทำได้” เช่น การวางกลยุทธระยะยาวของบริษัท
* หากถูกถามว่าตอนนี้คุณประเมินตนเองไว้กี่คะแนน คุณจะตอบอย่างไร? คนส่วนใหญ่จะประเมินว่าตนเองได้ประมาณ 70 คะแนน คนพวกนี้มีความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงน้อย ไม่พร้อมที่จะ “ทิ้ง” สิ่งต่างๆที่ทำกันอยู่ตามธรรมเนียม เพราะเขามองว่าตนเองมีโอกาสที่จะพัฒนาอีกแค่ 30 เปอร์เซ็นต์
* การเติบโตหมายถึง “ความกล้าหาญในการทิ้งตัวตนเดิมของเรา”
* การเพิ่มทักษะให้สูงขึ้นกับการเติบโตนั้นต่างกัน ทักษะคือสิ่งที่เราขวนขวายมาใส่ตัว แต่การเติบโตคือการเปลี่ยนแปลง
* สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือ “ตั้งเป้าหมายให้สูงเข้าไว้โดยไม่ต้องคำนึงถึงข้อจำกัดใดๆทั้งสิ้น” ถ้าด่วนตัดสินว่า “เป็นไปไม่ได้” ก็จะไม่มีวันฉุกคิดถึงแนวทางอื่นๆได้เลย
* ทั้งพี่น้องตระกูลไรท์ผู้ประดิษฐ์เครื่องบินและไอน์สไตน์ผู้ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพล้วนเป็นผู้ที่คิดเรื่อง “นอกสามัญสำนึก” และทำให้เป็นรูปธรรมขึ้นมา
* “ทิ้งลูกค้าให้เป็น แล้วยอดขายจะมากขึ้น” ลูกค้าที่ต้องทิ้งในที่นี้คือ “ลูกค้าที่น่าปวดหัว” เพราะจะทำให้เสียเวลาพนักงานขายมากเกินไป อาจขอลดราคาจนไม่มีกำไร และทำให้บริษัทเสียชื่อเสียง* “มองข้ามลูกค้ารายใหญ่ไปเสียบ้าง” ถ้ามีลูกค้ารายใหญ่เกินไป เขาอาจบีบให้เรารู้สึกว่าเราขาดเขาไม่ได้และต้องทำตามข้อเรียกร้องทุกอย่าง ลูกค้าอื่น ๆ ก็จะเรียกร้องตาม และถ้าเขายกเลิกการใช้บริการเราเมื่อไหร่บริษัทก็จะได้รับผลกระทบมากเกินไป
* การสร้าง “แบรนด์” ให้บริษัทเป็นเรื่องสำคัญ ที่สำนักงานผู้แต่งมีบรรยากาศสบายๆที่จะเพิ่มแรงจูงใจในการทำงานให้พนักงาน และทำให้ยอดขายสูงตามขึ้นไป เมื่อสื่อรู้ว่าบริษัทนี้ดูแลพนักงานดีมากๆก็จะนำไปช่วยโปรโมท ทำให้มีคนเก่งๆอยากมาทำงานด้วย
* หากไม่หัดใช้เงิน ก็ไม่มีทางที่จะมีทักษะด้านการใช้เงิน หากไม่ยอมใช้เงินเลยเพราะกลัวว่าจะทำกำไรไม่ได้ ก็จะไม่มีวันรู้วิธีใช้เงินเพื่อให้ได้กำไร
* อย่าไปยึดติดว่ากว่าจะได้เงินมายากแค่ไหน ให้คิดว่า “จะใช้เงินอย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด” ดีกว่า
* ถ้าไม่ขาดทุน ก็ไม่สามารถพัฒนาทักษะการใช้เงินได้ ทาดาชิ ยาไน ผู้ก่อตั้งยูนิโคล เคยเขียนหนังสือชื่อ “ชนะหนึ่งครั้ง แพ้เก้าครั้ง” นั่นย่อมแสดงความเขาเคยขาดทุนมาแล้ว
หนังสือชื่อ “ทิ้ง 1 ให้ได้ 100 ทิ้งน้อย ให้ได้มาก” โดย โยชิโอะ ยะซุดะ แปลโดย โฆษิต ทิพย์เทียมพงษ์ สำนักพิมพ์วีเลิร์น 164 หน้า ราคา 165 บาท
——————————————————————
เกร็ดน่ารู้:
* เด็กสิงคโปร์และเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
* คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
* แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติค่ะ
มาช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการมอบหนังสือเป็นของขวัญในทุกโอกาสนะคะ
——————————————————————-
ขอเชิญพบกับหนังสือ“ทิ้ง 1 ให้ได้ 100 ทิ้งน้อย ให้ได้มาก”ได้ที่ https://goo.gl/ugxKri
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น