เพราะอคติกับชื่อ จึงเกือบไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้เสียแล้ว!

คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 48 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือที่ดีเล่มหนึ่งที่คุณอาจมองข้ามเพราะชื่อบนปก คือ “คนจะรวย ช่วยไม่ได้” ค่ะ

=ทั้ง “รวย” ทั้ง “ช่วยไม่ได้”=

ส่วนตัวแล้วคิดว่าคนเราไม่จำเป็นที่จะตั้งเป้าว่าต้อง “รวย” ค่ะ เพราะถ้ารวยแล้วไม่ได้เป็นคนดี ไม่เป็น “ผู้ให้” กับสังคม หรือรวยแล้วใจรุ่มร้อนเพราะทำความชั่วไว้เยอะนั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไร อีกนัยหนึ่งก็คือ คนที่มีความสุขไม่จำเป็นต้องรวย และคนรวยใช่ว่าจะมีความสุขเสมอไป!
ประการที่สอง คำว่า “ช่วยไม่ได้” นี้ ฟังดูเหมือนอยู่ๆ ก็รวยเองง่ายๆ แบบฟ้าลิขิต ไม่ต้องใช้ความสามารถทุ่มเททำงานหนักอะไรเลย ทำให้นึกถึงการ “รวยแบบโกงกินมา” อะไรทำนองนี้เข้าไปอีก
ปกติเจอชื่อปกอย่างนี้จะขอ “ผ่าน” เลยค่ะ แต่มาเอะใจที่หัวหนังสือเป็นชื่อสำนักพิมพ์คุณภาพอย่าง “ปราณ พับลิชชิ่ง” ที่ไม่เคยผิดหวังสักเล่ม จึงลองหยิบมาพลิกดู แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ค่ะ

=ภาพรวม=

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือรวมชีวประวัติของมหาเศรษฐีระดับต้นๆของโลก 18 คนจากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บสประจำปี 2014 โดยเล่าถึงความเป็นมาของแต่ละคนค่อนข้างละเอียด ทำให้เห็นวิธีคิด วิธีดำเนินชีวิตของแต่ละคนอย่างชัดเจนค่ะ พร้อมทั้งปิดท้ายประวัติของแต่ละคนด้วย “เคล็ดลับ” การทำงานให้ประสบความสำเร็จจากปากคนผู้นั้นเองอีกด้วย

=จุดร่วมที่มหาเศรษฐีเหล่านี้มีร่วมกัน=

หนังสือเล่มนี้จะเผยให้เห็นวิธีการสร้างตัวที่มหาเศรษฐีเหล่านี้มีร่วมกัน ประการแรกคือทุกคน “รู้จักตนเอง” ตั้งแต่เล็กว่าชอบด้านใด ถนัดด้านใด จากนั้นก็มุ่งมั่นพัฒนาตนเองอย่างไม่ย่อท้อ ทุ่มเททำงานหนัก ใฝ่หาความรู้อยู่เสมอ หมั่นศึกษาสภาพแวดล้อมจึงทำให้มักเห็นโอกาสที่คนอื่นไม่เห็น หมั่นปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตนเองและองค์กรให้เข้ากับสถานการณ์ มีความคิดสร้างสรรค์ กล้าทดลองทำหลายสิ่งที่ไม่เคยมีคนทำมาก่อน อีกประการหนึ่งคือส่วนใหญ่เริ่มต้นจากศูนย์หรือติดลบด้วยซ้ำ จะมียกเว้นบ้างก็น้อยมากที่มาจากครอบครัวคนชั้นกลางหรือฐานะค่อนข้างดีอยู่แล้วค่ะ

=ประเด็นน่าสนใจจากในเล่ม=

* ทั้งๆที่ทางบ้านมีฐานะอยู่แล้ว บิล เกตส์ ยังรับจ้างเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์หาค่าขนมเองตั้งแต่ก่อนจะเรียนจบมัธยม และมีวิสัยทัศน์ฟันธงได้ตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัยว่าในอนาคตคอมพิวเตอร์จะต้องกลายเป็นเครื่องมือส่วนบุคคล หนึ่งในเคล็ดลับของเขาคือ “อย่าประมาท”

* แทบจะทุกคนในเล่มให้ความสำคัญกับ “การอ่านหนังสือให้มากเข้าไว้” สามารถกล่าวได้เลยว่าส่วนใหญ่เป็นผู้ “กระหายข้อมูล” และ “บริโภคข้อมูล” ที่มีค่าจากแหล่งต่าง ๆ จำนวนมากอยู่เสมอ

* ส่วนใหญ่เป็น “ผู้ให้” กลับคืนแก่สังคมด้วย เช่น บิล เกตส์, คาร์ลอส สลิม, วอร์เรน บัฟเฟตต์, ลีกาชิง, ไมเคิล บลูมเบิร์ก, มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก, จงซิงโหว ฯลฯ

* ส่วนใหญ่มีรายได้มาจากหลาย ๆ ทาง เป็นการกระจายความเสี่ยง, ใช้ชีวิตสมถะ เงียบ ๆ เรียบง่าย พยายามอยู่นอกสายตาของสื่อมวลชน

* ธุรกิจของหลายคนจากนานาประเทศ เช่น Zara (สเปน), Uniqlo (ญี่ปุ่น), ห้าง Aldi (เยอรมัน) และกลุ่มวาฮาฮา (จีน) เติบโตขึ้นมาด้วยวิสัยทัศน์เดียวกัน คือ “มอบของราคาย่อมเยา คุณภาพดี หาซื้อง่าย ให้กับมวลชน”

* ตอนเริ่มชีวิตการทำงาน ลีกาชิง จะรีบตื่นนอนตั้งแต่ตี 4 เพื่ออ่านหนังสือทุกวัน ใช้เวลาว่างตอนเย็นหลังเลิกงานไปเรียนพิเศษเพิ่มเติม ซื้อหนังสือมือสองมาอ่านจบแล้วขายออกไปเพื่อเอาเงินไปซื้อเล่มใหม่มาอ่านอีก ทั้งหมดล้วนเป็นหนังสือเพื่อเพิ่มพูนความรู้ไม่ใช่แนวประโลมโลก

* แม้ส่วนใหญ่จะรู้ว่าตนเองชอบอะไร ถนัดสิ่งใดตั้งแต่อายุยังน้อย ก็มีหลายคนที่กว่าจะสร้างตัวได้ก็กลางคนไปแล้ว เช่น กว่าจงซิงโหวจะเปิดร้านของชำร้านแรกของตนเองได้ก็อายุ 41 แล้ว

* ในเล่มนี้ก็มี “ผู้ร้าย” ด้วยเช่นกัน เช่น พ่อมดการเงิน จอร์จ โซรอส ที่ทุบค่าเงินบาทไทยและ นักล่าบริษัทอย่าง คาร์ล ไอคาห์น ที่มักใช้มาตรการปลดพนักงานและไล่ผู้บริหารออก แน่นอนท่านผู้อ่านสามารถเลือกได้ค่ะว่าท่านอยากประสบความสำเร็จแบบ “พระเอก” หรือว่า “ผู้ร้าย”

=สรุป=

หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงเหมาะกับคนทำงานทุกคน แต่ยังเหมาะกับเยาวชนไทยด้วยค่ะเพราะการได้อ่านประวัติของผู้มีความสำเร็จหลาย ๆ คนอย่างละเอียดนั้นจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆได้มาก เด็กไทยยังต้องการ “บุคคลต้นแบบ” ที่หลากหลาย ซึ่งหนังสือเล่มนี้มอบให้ได้ค่ะ
อย่างน้อยๆ เด็กไทยเราจะได้เข้าใจว่า ไม่มีความสำเร็จใดในชีวิตที่ได้มาอย่างง่ายๆ และผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนและมีความสุขอย่างแท้จริงล้วนเป็น “ผู้ให้กลับสู่สังคม” ทั้งสิ้น

หนังสือชื่อ “คนจะรวย ช่วยไม่ได้” โดย พฤกษ์ อชิตานุกุล สำนักพิมพ์ปราณ สิงหาคม 2557 264 หน้า ราคา 175 บาท
——————————————————————
เกร็ดน่ารู้:
* เด็กสิงคโปร์และเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
* คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
* แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติค่ะ

ขอเชิญติดตามหนังสือสาระดีๆได้ที่ https://goo.gl/FrqjXi