=ภาพรวม=
หนังสือขนาดย่อมอ่านวันเดียวจบนี้เป็นคู่มือพัฒนาภาวะผู้นำจากอเมริกาที่แฝงตัวมาในรูปนิยายค่ะ
ถ้าจะเทียบกับหนังสือแนว “สอนธุรกิจในรูปแบบนิยาย” จากญี่ปุ่นที่ผู้วิจารณ์เคยเขียนถึงไปแล้วนั้น เล่มนี้อาจจะไม่ซาบซึ้งประทับใจจนน้ำตาซึมเท่าเล่ม “สิ่งที่ดิสนีย์สอนฉัน” และอาจจะไม่อ่านง่าย ตรงไปตรงมา นำไปใช้ตามง่ายเหมือน “สาวมั่นกับชั้นเชิงการตลาด 1-2” แต่ก็ยังนับว่ามีพลังไม่น้อยค่ะ
ถ้าจะเทียบกับหนังสือแนว “สอนธุรกิจในรูปแบบนิยาย” จากญี่ปุ่นที่ผู้วิจารณ์เคยเขียนถึงไปแล้วนั้น เล่มนี้อาจจะไม่ซาบซึ้งประทับใจจนน้ำตาซึมเท่าเล่ม “สิ่งที่ดิสนีย์สอนฉัน” และอาจจะไม่อ่านง่าย ตรงไปตรงมา นำไปใช้ตามง่ายเหมือน “สาวมั่นกับชั้นเชิงการตลาด 1-2” แต่ก็ยังนับว่ามีพลังไม่น้อยค่ะ
=ก่อนอ่าน=
ผู้วิจารณ์อยากจะขออนุญาตปูพื้นฐานให้ท่านที่อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับการเข้าควบรวมกิจการแนวอเมริกันไว้ ณ ตรงนี้เลยนะคะเพื่อช่วยให้ท่านอ่านได้อย่างมีอรรถรสมากขึ้น เป็นเรื่องปกติค่ะที่จะมีกลุ่มบริษัทนักลงทุนรายใหญ่เงินหนาคอยจ้องจะเข้าซื้อ+ควบรวมกิจการบริษัทขนาดเล็กกว่าที่กำลังขาดสภาวะความคล่องทางการเงิน ซึ่งแท้ที่จริงบริษัทเล็กๆเหล่านั้นยังมีศักยภาพดีๆซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์ที่ถูกประเมินในราคาต่ำกว่าท้องตลาดหรือทักษะเฉพาะที่สั่งสมมาเป็นเวลานาน
=ประเด็นปัญหา=
หลายครั้งการเข้าควบรวมกิจการนั้นเป็นไปอย่างไม่ค่อยจะเป็นมิตรนักหรือที่เรียกกันว่า hostile takeover ซึ่งเกิดจากการกว้านซื้อหุ้นให้ได้เสียงข้างมาก ตามมาด้วยการปลดพนักงานบริษัทที่โดนซื้อออกจำนวนมหาศาล นำสินทรัพย์ออกขายทอดตลาด รวมทั้งโละบอร์ดผู้บริหารเก่าทั้งหมด
ดังนั้นเมื่อบริษัทเล็กๆรายใดตกเป็นเป้าของการเข้าซื้อเพื่อควบรวมกิจการก็มักจะมีการต่อต้านว่าที่ผู้ซื้อจากคณะผู้บริหารและพนักงานในบริษัทเล็กๆนั้นอย่างมากค่ะ และนี่คือปูมหลังของ “นิยาย” เรื่องนี้ที่มีพระเอก “เบน” เป็นนักเจรจาจากบริษัทนักลงทุนรายใหญ่ ผู้มีเวลาเพียง 1 สัปดาห์ที่จะโน้มน้าวให้พนักงานผู้ถือหุ้นร่วมของบริษัทเฟอร์นิเจอร์จำนวน 500 คนยอมตกลงด้วย
ดังนั้นเมื่อบริษัทเล็กๆรายใดตกเป็นเป้าของการเข้าซื้อเพื่อควบรวมกิจการก็มักจะมีการต่อต้านว่าที่ผู้ซื้อจากคณะผู้บริหารและพนักงานในบริษัทเล็กๆนั้นอย่างมากค่ะ และนี่คือปูมหลังของ “นิยาย” เรื่องนี้ที่มีพระเอก “เบน” เป็นนักเจรจาจากบริษัทนักลงทุนรายใหญ่ ผู้มีเวลาเพียง 1 สัปดาห์ที่จะโน้มน้าวให้พนักงานผู้ถือหุ้นร่วมของบริษัทเฟอร์นิเจอร์จำนวน 500 คนยอมตกลงด้วย
=คำคมจากเรื่อง=
คำคมเหล่านี้จะมีความหมายขึ้นอีกมากเมื่ออยู่ในบริบทของนิยายที่หนังสือเล่มนี้เล่าค่ะ ผู้วิจารณ์ขอยกมาพอเป็นตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นนะคะ
1) การสร้างธุรกิจ หรือสร้างอะไรก็ตาม เป็นการทำด้วยศรัทธา 2) ยิ่งคุณยอมเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีอำนาจมากขึ้นเท่านั้น 3) อย่าตอบโต้ จงตอบสนอง 4) ถ่อมตนให้มากเข้าไว้ 5) จงนำด้วยจิตวิญญาณ และ 6) ให้ผู้อื่นเป็นผู้นำบ้าง
1) การสร้างธุรกิจ หรือสร้างอะไรก็ตาม เป็นการทำด้วยศรัทธา 2) ยิ่งคุณยอมเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีอำนาจมากขึ้นเท่านั้น 3) อย่าตอบโต้ จงตอบสนอง 4) ถ่อมตนให้มากเข้าไว้ 5) จงนำด้วยจิตวิญญาณ และ 6) ให้ผู้อื่นเป็นผู้นำบ้าง
=สรุป=
คำถามแรกสุดที่ต้นบทความนี้นั้นสะท้อนความเป็นจริงในสังคมอเมริกันอย่างหนึ่งค่ะว่า ผู้คนมักใช้ “ตนเอง” เป็นจุดศูนย์กลางในการพยายามแก้ปัญหาต่างๆ ผู้วิจารณ์มองว่าการมีสติตระหนักรู้อยู่เสมอว่าเรากำลังคิดอะไร หรือจะพูดอะไรออกไปจะช่วยให้คุณเป็นผู้นำที่ดีขึ้นได้ค่ะ
บางครั้งคุณไม่จำเป็นต้องพูดด้วยซ้ำไป บางครั้งเหมือนคุณกำลัง “ยอม” แต่ความจริงคุณกำลัง “ให้” เมื่อคุณ “ให้” ใจ คุณก็จะ “ชนะใจ” ค่ะ
หนังสือชื่อ “ยิ่งให้ยิ่งชนะ” แปลจาก It’s Not About You ของ บ๊อบ เบิร์ก และ จอห์น เดวิด มานน์ โดย คุณอมรรัตน์ ศรีสุรินทร์ สำนักพิมพ์อมรินทร์ How-To กันยายน 2557 169 หน้า ราคา 115 บาท
——————————————————————
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ มีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านค่ะ เด็กสิงคโปร์และเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน ในขณะที่คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านกันเพียงปีละ 4 เล่ม/คน เรามาช่วยกันรณรงค์การอ่านหนังสือเล่มเพื่อพัฒนาตนเอง สังคม และประเทศชาติกันนะคะ เริ่มที่ตัวเราเองเลยค่ะ
——————————————————————-
กรุณากดสั่งซื้อหนังสือได้ที่ https://goo.gl/tIxB3G เพื่อให้มั่นใจว่าท่านจะไม่พลาดหนังสือดีๆเล่มนี้ค่ะ
——————————————————————
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ มีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านค่ะ เด็กสิงคโปร์และเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน ในขณะที่คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านกันเพียงปีละ 4 เล่ม/คน เรามาช่วยกันรณรงค์การอ่านหนังสือเล่มเพื่อพัฒนาตนเอง สังคม และประเทศชาติกันนะคะ เริ่มที่ตัวเราเองเลยค่ะ
——————————————————————-
กรุณากดสั่งซื้อหนังสือได้ที่ https://goo.gl/tIxB3G เพื่อให้มั่นใจว่าท่านจะไม่พลาดหนังสือดีๆเล่มนี้ค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น