วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2559

บรรยากาศอึกทึกวุ่นวายของเทศกาลนี้ทำให้คิดถึงความสงบกันบ้างไหมคะ?


คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 61 วันนี้จะมาชวนคุยถึงหนังสือชื่อ “ความวิเวกเป็นสุข” ค่ะ




=ภาพรวม=
หนังสือเล่มบางเฉียบแต่อัดแน่นไปด้วยสาระดีๆนี้เป็นหนึ่งในซีรี่ส์หนังสือชุด “พุทธทาส ๑๐๐ ปี หนังสือดี ๑๐๐ เล่ม” ซึ่งเป็นการคัดธรรมบรรยายของท่านพุทธทาสภิกขุ 1 เรื่องมาจัดพิมพ์ขึ้น 1 เล่มค่ะ
แต่เล่มนี้เป็นการรวมธรรมบรรยาย 2 ครั้งเข้าด้วยกัน คือ “ความวิเวกเป็นสุข” และ “ความไม่เบียดเบียนเป็นสุข” ค่ะ
=ประเด็นเด่นจากในเล่ม=
* วิ-เวก แปลตามรากศัพท์แปลว่า เดี่ยวอย่างยิ่ง เดี่ยวอย่างวิเศษ คือไม่มีอะไรรบกวน เป็นสุขอย่างยิ่ง
* คนส่วนใหญ่ชอบสุขแบบต้องมีสิ่งมากวน ถึงกับยอมเหนื่อยมาก ยอมเปลืองมาก ยอมลำบากตัวเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา แล้วก็ไม่มีวิเวกเลย
* สิ่งที่รบกวนนั้นมีได้หลายอย่างทั้งข้างนอกข้างใน เช่น แดดฝน สัตว์ คน โรคภัย ไปจนถึงกิเลส
* เช่น เวลาที่กำลังฟังธรรมที่สวนโมกข์ กายก็ไม่ถูกรบกวนเพราะอยู่ในที่อันสงบสงัดในป่า จิตก็ไม่มีอะไรรบกวนไม่ต้องไปห่วงอะไรที่ไหน และถ้าจิตว่างจากตัวกูของกูด้วยก็จะวิเวกในส่วนสติปัญญาด้วย
* ผู้ที่ได้สัมผัสความวิเวกใจก็จะเกิดความรู้สึกที่เรียกว่า ความยินดี ความพอใจ หรือความพอเพียงนั่นเอง
* แม้แต่ชาวบ้านทุกคนก็มีโอกาสแสดงธรรม เช่น เวลาพูดกับคนอื่นนั่นเองเป็นเวลาแสดงธรรม อย่าไปโมโหโทโส หรือ ดุเขา เรียกว่าทำโดยไม่ประมาท ด้วยพิจารณาธรรมะอยู่เสมอ
* เข้ามาในวัดก็ให้ทำอะไรด้วยสติสัมปชัญญะอยู่เสมอ จะจุดเทียน จะรับศีล จะถวายทาน หรือจะฟังเทศน์ ก็ให้มีความอิ่มใจ พอใจอยู่เสมอ
* ความเคยชินไปในทางของธรรมะเรียกว่าบารมี ความเคยชินไปทางกิเลสเรียกว่า อาสวะ หรือ อนุสัย
* ถ้าไปสร้างกิเลสจนเป็นนิสัยแล้วจะแก้ยาก แต่ถ้าคอยระวังด้วยสติสัมปชัญญะมันจะค่อย ๆ เปลี่ยนไปทางรู้สึกตัวอยู่เสมอ เป็นการฆ่ากิเลส เรียกว่าบำเพ็ญบารมี
* เกิดตัวกูครั้งหนึ่งก็เรียกว่าชาติหนึ่ง ฉะนั้นถ้าเกิดตัวกูครั้งใดก็ขอให้เป็นการแก้ไขกิเลส มันจะเกิดยากขึ้น
* ถ้าไม่ได้รับความพอใจความอิ่มใจโดยแท้จริงจากธรรมะแล้ว คนเราก็ไม่รักธรรมะ ไม่มีความพยายามที่จะก้าวไปในทางของธรรมะเพราะไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกพอใจ
* คนที่เบียดเบียนผู้อื่น ย่อมชื่อว่าเบียดเบียนตนเองด้วย และเบียดเบียนก่อนด้วยซ้ำไป เพราะแค่คิดกิเลสก็เกิดขึ้นในใจบุคคลนั้นแล้ว และความคิดเบียดเบียนนั้นเป็นความร้อน
* คนที่ชอบคิดร้ายเป็นนิสัย ก็จะเบียดเบียนตนเองอยู่ตลอดเวลา ทั้งหลับ ทั้งตื่น โดยรู้สึกตัวบ้าง ไม่รู้สึกตัวบ้าง
* ในทางตรงกันข้าม ถ้าจิตมีความเมตตา กรุณา มุ่งดี หวังดี ก็เป็นความสุขแก่บุคคลนั้นก่อน
* ถ้าฝึกใจไว้ถูกต้อง จะเกิดอาการไม่กลัวอะไรขึ้นมาทันที สิ่งที่เคยกลัวก็จะไม่กลัว จะเป็นเรื่องผีสางสัตว์ร้ายอะไรก็ไม่กลัว ความมืดหรืออะไรที่ไม่มีเหตุผลก็จะไม่กลัว ความตายก็ไม่กลัว
* เมื่อพระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ใหม่ ๆ สิ่งแรก ๆ ที่ทรงตรัสก็คือ วิเวกเป็นสุข
=สรุป=
ท่านพุทธทาสสรุปไว้ว่า “…วิเวก คือ การไม่ถูกอะไรรบกวนทางกาย ทางจิต ทางสติปัญญา ของบุคคลผู้ฟังธรรมะแล้ว เห็นธรรมะนั้นอยู่ อิ่มอยู่ ซึ่งเป็นความสุขส่วนตัวอย่างลึกซึ้ง ทำให้บุคคลนั้นไม่เบียดเบียนใครเลย ก็เลยกลายเป็นความสุขที่กว้างขวางออกไปถึงผู้อื่นด้วย…” ในเทศกาลที่วุ่นวายอึกทึกครึกโครมอย่างนี้ ลองปลีกกายปลีกใจไปหาความวิเวกกันบ้างนะคะ
หนังสือชื่อ “ความวิเวกเป็นสุข” โดย พุทธทาสภิกขุ สำนักพิมพ์สุขภาพใจ กรกฎาคม 2553 80 หน้า ราคา 35 บาท

——————————————————————
เกร็ดน่ารู้:
* เด็กสิงคโปร์และเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
* คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
* แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติค่ะ
——————————————————————-
เชิญมีความสุขจากการวิเวกได้ที่ https://goo.gl/w3N5d4

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น