วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2559

มาเรียนรู้เกี่ยวกับป่าดงดิบเพิ่มเติมกันเถอะ!


คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 277 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “เอาชีวิตรอด ตะลุยป่ามหาภัย 3”  ค่ะ



=ภาพรวม=
หนังสือการ์ตูนวิทยาศาสตร์ที่มีการสลับฉากเป็นระยะ ๆ ด้วยบทความสั้น ๆ และภาพกราฟฟิกสีสดใสนี้เป็นหนึ่งในซีรี่ส์การ์ตูน “เอาชีวิตรอด…” จากประเทศเกาหลีค่ะ
ในเล่มเป็นเรื่องราวของเด็กชายนีโมและเด็กหญิงอาระ พร้อมทั้งคุณพ่อของอาระที่เป็นแพทย์อาสา เดินทางเข้าไปเพื่อทำงานจิตอาสาในหมู่บ้านที่ห่างไกลในเขตป่าดิบชื้นบอร์เนียวในประเทศอินโดนีเซีย ทั้งสามคนเจอเข้ากับพายุทอร์นาโดมารู้ตัวอีกทีในหมู่บ้านของชาวพื้นเมือง คุณพ่อของอาระบาดเจ็บจนเป็นบาดทะยักและต้องได้รับการรักษาโดยด่วน ดังนั้นนีโมกับอาระจึงตัดสินใจเดินทางฝ่าป่าดงดิบอันแสนอันตรายไปขอความช่วยเหลือ โดยมีเซลลีมา นักรบสาวของหมู่บ้านเดินทางไปด้วย 
เป็นหนังสือที่ให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์หลายด้าน  อีกทั้งปลูกจิตสำนึกให้อนุรักษ์ธรรมชาติ  เหมาะสำหรับทั้งปลูกฝังเยาวชน และเหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ไว้อ่านเองสนุก ๆ ด้วยค่ะ
=น่าสนใจจากในเล่ม=
*  ด้วงเสือเป็นแมลงที่จะล่าแมลงที่ใหญ่กว่าตัวเอง  จุดที่น่ากลัวที่สุดคือความเร็ว  ด้วงเสือเป็นแมลงที่วิ่งเร็วที่สุด  มันวิ่งได้เร็ว 2.5 เมตรต่อวินาทีหรือ 8 กม.ต่อชั่วโมง  ถ้ามันมีขนาดเท่ามนุษย์ มันจะสามารถวิ่งได้เร็วถึง 400 กม.ต่อชม.
*  ขณะที่ด้วงเสือวิ่งเร็ว ๆ สมองจะส่งข้อมูลไปยังตาได้ไม่ทัน  เพราะการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วทำให้สมองควบคุมการมองเห็นไม่ได้  เป็นเหตุให้อวัยวะอื่น ๆ ต้องหยุดทำงานไปชั่วขณะ  เราจึงเห็นมันยืนนิ่ง ๆ จนกว่าจะได้สติ
*  ด้วงเสือมีคุณสมบัติของยอดนักล่า  มีตาใหญ่มองได้รอบทิศ มีปากที่ใช้ตัดอาหารได้เป็นอย่างดี  มีนิสัยดุร้าย
*  แมลงที่ส่งเสียงดังที่สุดในระดับเสียงที่มนุษย์ได้ยิน คือ จักจั่นแอฟริกา  มันส่งเสียงดังถึง 106.7 เดซิเบล เมื่อวัดจากระยะห่าง 50 ซม.  ซึ่งความดังที่เกิน 85 เดซิเบลถือเป็นอันตรายต่อหูมนุษย์
*  แมลงที่กระโดดได้สูงที่สุดคือ เพลี้ยกระโดด  มันตัวยาวเพียง 6 มม.แต่กระโดดได้สูงกว่า 70 ซม.
*  แมลงต่าง ๆ เช่น ตั๊กแตน ควบคุมการเคลื่อนไหวด้วยปมประสาทส่วนอกและส่วนท้อง  ไม่ใช่สมองที่อยู่ตรงส่วนหัว  ดังนั้นถึงจะไม่มีหัว มันก็ยังเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ เช่น เดิน หรือ กระโดด ได้
*  พิษงูแบ่งเป็นแบบทำลายระบบประสาทและทำลายระบบเลือด  แบบแรกจะทำลายเซลล์ประสาท ปิดกั้นการเคลื่อนที่ของสารสื่อประสาท ประสาทสัมผัส และประสาทส่วนกลางจะไม่ทำงาน  หายใจไม่ออก และเสียชีวิต  งูเห่าและงูจงอางมีพิษชนิดนี้
*  ส่วนพิษทำลายระบบเลือด จะทำลายเซลล์กล้ามเนื้อ เม็ดเลือด และหลอดเลือด  มีผลต่อการทำงานของการแบ่งเซลล์ในกระแสเลือดด้วย  ถ้าติดเชื้อเลือดจะไหลออกมาจากร่างกาย  อวัยวะภายในอาจถูกทำลายจนถึงขั้นเสียชีวิต  งูกะปะ งูแมวเซา และงูหางกระดิ่งมีพิษชนิดนี้
*  การแสดงค่าความเป็นพิษของงูพิษ จะใช้ค่า LD50 (Lethal Dose 50) ซึ่งหมายถึงปริมาณของสารเคมีที่ทำให้สัตว์ทดลองที่ได้รับพิษนั้นเพียงครั้งเดียวตายไปครึ่งหนึ่งของจำนวนเริ่มต้น  ยิ่งค่าตัวเลขต่ำลงความเป็นพิษจะรุนแรงมากขึ้น
*  งูไทปันในออสเตรเลียมีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก คือ ค่า LD50 = 0.02 มก./กก.  แต่นิสัยไม่ดุร้าย พบไม่บ่อย  ส่วนงูจงอางที่พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งประเทศไทยนั้นมีค่า LD50 อยู่ที่ 1.7 มก./กก.  เป็นงูพิษที่มีขนาดใหญ่ที่สุด  อาศัยอยู่ในป่า จะดุร้ายมากเวลาปกป้องรังของตน
หนังสือชื่อ “เอาชีวิตรอด ตะลุยป่ามหาภัย 3” เขียนโดย Hong Jae-Cheol ภาพประกอบโดย Lee Tae-Ho แปลโดย ศุภลักษณ์ อาศิรพจน์มนตรี   สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่น พิมพ์ครั้งที่ 1 พฤศจิกายน 2553  184 หน้า  ราคา 158 บาท
——————————————————————-
เกร็ดน่ารู้:
*  เด็กเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
*  คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
*  แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
คอลัมน์  “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติ
——————————————————————-
ขอเชิญติดตามหนังสือ “เอาชีวิตรอด ตะลุยป่ามหาภัย 3”  ได้ที่ https://goo.gl/3CyZAl

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น