วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ท่านพุทธทาสเทศน์เรื่องสังขารไว้ว่าอย่างไรบ้าง?



คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 360 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “การปรุงเป็นทุกข์อย่างยิ่ง การดับเป็นสุขอย่างยิ่ง”



=ภาพรวม=
หนังสือเล่มบางเฉียบแต่อัดแน่นไปด้วยสาระดี ๆ นี้เป็นหนึ่งในซีรี่ส์หนังสือชุด “พุทธทาส ๑๐๐ ปี หนังสือดี ๑๐๐ เล่ม” ซึ่งเป็นการคัดธรรมบรรยายของท่านพุทธทาสภิกขุ 1 เรื่องมาจัดพิมพ์ขึ้น 1 เล่ม
เล่มนี้เป็นธรรมบรรยายท่านพุทธทาสแสดงไว้เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2525
=น่าสนใจจากในเล่ม=
*   การปรุงเป็นทุกข์อย่างยิ่งนี้มีบาลีว่า “สงฺขารา ปรมา ทุกฺขา”  การดับเป็นสุขอย่างยิ่ง คือ “นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ”
*  พอเป็นภาษาไทย คนมักเข้าใจว่า สังขาร หมายถึงเฉพาะร่างกาย  ความจริงสังขารแปลว่า การปรุง ของปรุง สิ่งปรุง สิ่งถูกปรุง
*  ในงานศพที่พระสวด อนิจฺจา วต สังฺขารา นั้น แปลว่า ของที่ถูกปรุงทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ  อุปฺปาทวยธมฺมิโน แปลว่า มีธรรมดาเกิดแล้วเปลี่ยน  อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ  แปลว่า เกิดขึ้นแล้วดับไป  เตสํ วูปสโม สุโข แปลว่า ความระงับเสียซึ่งสังขารคือการปรุงนั้นเป็นสุข
*  เมื่อจิตว่างจากการปรุง จิตจะสบายอย่างยิ่ง ซึ่งมีลักษณะเดียวกับนิพพานสำหรับพระอรหันต์  ส่วนเรานั้นมันหยุดปรุงหรือดับชั่วคราว ชั่วขณะ  พระอรหันต์นั้นท่านหยุดปรุง หรือดับตลอดไป
*  ขอให้สังเกตุดูว่าวันหนึ่ง ๆ เมื่อไรมีการปรุง เมื่อนั้นก็จะต้องมีความทุกข์  เมื่อใดหยุดปรุงเมื่อนั้นจิตจะโปร่งสงบเย็นสบาย  ไม่มีอะไรกระตุ้น นี่จะเป็นสุข
*  พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานกลางดิน ใต้ต้นไม้  ฉะนั้นชีวิตกลางดินใต้ต้นไปเป็นชีวิตแบบพระพุทธเจ้า  ถ้าเรามานั่งกันอย่างนี้ในธรรมชาติ (สวนโมกข์) ธรรมชาติมันช่วยให้หยุดปรุง
*  เราเรียนธรรมะไปทำไมกัน?  มีจุดสูงสุดอยู่ที่ไหน?  เรียนธรรมะก็เพื่อจุดสูงสุดที่ดับเย็น คือ นิพพาน
*  เราจะต้องศึกษาธรรมะจากของจริงเสมอไป  ไม่ใช่จากการฟังแล้วก็จดไว้ในสมุด  นี้ยังไม่ใช่การศึกษา  เป็นเพียงอุปกรณ์ของการศึกษา  ต้องทำความรู้สึกหรือทำการปฏิบัติให้ถูกต้องในชีวิตประจำวัน (คือการเจริญสติ)
*  พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า จุดเริ่มต้นของพรหมจรรย์ หรือ การศึกษาและการปฏิบัติเพื่อดับทุกข์นั้น ตั้งต้นที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
*  ถ้าจะเรียนพุทธศาสนา ก็ไปเรียนที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ อย่ามาตั้งต้นเรียนที่พุทธประวัติ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือศีล 5 แล้วท่องอย่างนกแก้วนกขุนทองเลย    นี่เรียนจนตายก็ไม่ถึงตัวพุทธศาสนา
*  เมื่อมีสิ่งมากระทบตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นั้น ถ้าตามธรรมชาติมันจะปรุง  เราก็ใช้สติปัญญาของเรา ควบคุมไว้ไม่ให้ปรุง  มันก็ไม่เป็นทุกข์  เราจึงต้องมีสติ คอยควบคุม อย่าให้เกิดเป็นการปรุงขึ้นมา  ให้หยุดเย็นอยู่ดังเดิม ก็จะมีความสุข
*  เมื่อไม่ปรุงมันก็เย็นอยู่  ที่เย็นนี้ ไม่ใช่ทำอะไรไม่ได้  เย็นนี้คืออารมณ์ที่ดี ที่สบาย ที่เป็นสุข คิดนึกอะไรได้  ทำอะไรก็ทำได้ดีกว่า  ฉะนั้นสังเกตุดูง่าย ๆ ว่า  เมื่อใดเรามีอารมณ์ดี มีใจคอปกติ เมื่อนั้นเราจะทำอะไรได้ดีกว่าเวลาที่เรากำลังมีจิตใจหงุดหงิดฟุ้งซ่าน
หนังสือชื่อ “การปรุงเป็นทุกข์อย่างยิ่ง การดับเป็นสุขอย่างยิ่ง” โดย พุทธทาสภิกขุ  สำนักพิมพ์สุขภาพใจ  สิงหาคม 2553  80 หน้า ราคา 35 บาท
——————————————————————
เกร็ดน่ารู้:
*  เด็กเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
*  คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
*  แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
คอลัมน์  “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติ
——————————————————————-
ขอเชิญติดตามหนังสือ “การปรุงเป็นทุกข์อย่างยิ่ง การดับเป็นสุขอย่างยิ่ง” ได้ที่ https://goo.gl/T6jH11

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น