คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 360 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “การปรุงเป็นทุกข์อย่างยิ่ง การดับเป็นสุขอย่างยิ่ง”
=ภาพรวม=
หนังสือเล่มบางเฉียบแต่อัดแน่นไปด้วยสาระดี ๆ นี้เป็นหนึ่งในซีรี่ส์หนังสือชุด “พุทธทาส ๑๐๐ ปี หนังสือดี ๑๐๐ เล่ม” ซึ่งเป็นการคัดธรรมบรรยายของท่านพุทธทาสภิกขุ 1 เรื่องมาจัดพิมพ์ขึ้น 1 เล่ม
เล่มนี้เป็นธรรมบรรยายท่านพุทธทาสแสดงไว้เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2525
=น่าสนใจจากในเล่ม=
* การปรุงเป็นทุกข์อย่างยิ่งนี้มีบาลีว่า “สงฺขารา ปรมา ทุกฺขา” การดับเป็นสุขอย่างยิ่ง คือ “นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ”
* พอเป็นภาษาไทย คนมักเข้าใจว่า สังขาร หมายถึงเฉพาะร่างกาย ความจริงสังขารแปลว่า การปรุง ของปรุง สิ่งปรุง สิ่งถูกปรุง
* ในงานศพที่พระสวด อนิจฺจา วต สังฺขารา นั้น แปลว่า ของที่ถูกปรุงทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ อุปฺปาทวยธมฺมิโน แปลว่า มีธรรมดาเกิดแล้วเปลี่ยน อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺติ แปลว่า เกิดขึ้นแล้วดับไป เตสํ วูปสโม สุโข แปลว่า ความระงับเสียซึ่งสังขารคือการปรุงนั้นเป็นสุข
* เมื่อจิตว่างจากการปรุง จิตจะสบายอย่างยิ่ง ซึ่งมีลักษณะเดียวกับนิพพานสำหรับพระอรหันต์ ส่วนเรานั้นมันหยุดปรุงหรือดับชั่วคราว ชั่วขณะ พระอรหันต์นั้นท่านหยุดปรุง หรือดับตลอดไป
* ขอให้สังเกตุดูว่าวันหนึ่ง ๆ เมื่อไรมีการปรุง เมื่อนั้นก็จะต้องมีความทุกข์ เมื่อใดหยุดปรุงเมื่อนั้นจิตจะโปร่งสงบเย็นสบาย ไม่มีอะไรกระตุ้น นี่จะเป็นสุข
* พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานกลางดิน ใต้ต้นไม้ ฉะนั้นชีวิตกลางดินใต้ต้นไปเป็นชีวิตแบบพระพุทธเจ้า ถ้าเรามานั่งกันอย่างนี้ในธรรมชาติ (สวนโมกข์) ธรรมชาติมันช่วยให้หยุดปรุง
* เราเรียนธรรมะไปทำไมกัน? มีจุดสูงสุดอยู่ที่ไหน? เรียนธรรมะก็เพื่อจุดสูงสุดที่ดับเย็น คือ นิพพาน
* เราจะต้องศึกษาธรรมะจากของจริงเสมอไป ไม่ใช่จากการฟังแล้วก็จดไว้ในสมุด นี้ยังไม่ใช่การศึกษา เป็นเพียงอุปกรณ์ของการศึกษา ต้องทำความรู้สึกหรือทำการปฏิบัติให้ถูกต้องในชีวิตประจำวัน (คือการเจริญสติ)
* พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า จุดเริ่มต้นของพรหมจรรย์ หรือ การศึกษาและการปฏิบัติเพื่อดับทุกข์นั้น ตั้งต้นที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
* ถ้าจะเรียนพุทธศาสนา ก็ไปเรียนที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ อย่ามาตั้งต้นเรียนที่พุทธประวัติ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือศีล 5 แล้วท่องอย่างนกแก้วนกขุนทองเลย นี่เรียนจนตายก็ไม่ถึงตัวพุทธศาสนา
* เมื่อมีสิ่งมากระทบตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นั้น ถ้าตามธรรมชาติมันจะปรุง เราก็ใช้สติปัญญาของเรา ควบคุมไว้ไม่ให้ปรุง มันก็ไม่เป็นทุกข์ เราจึงต้องมีสติ คอยควบคุม อย่าให้เกิดเป็นการปรุงขึ้นมา ให้หยุดเย็นอยู่ดังเดิม ก็จะมีความสุข
* เมื่อไม่ปรุงมันก็เย็นอยู่ ที่เย็นนี้ ไม่ใช่ทำอะไรไม่ได้ เย็นนี้คืออารมณ์ที่ดี ที่สบาย ที่เป็นสุข คิดนึกอะไรได้ ทำอะไรก็ทำได้ดีกว่า ฉะนั้นสังเกตุดูง่าย ๆ ว่า เมื่อใดเรามีอารมณ์ดี มีใจคอปกติ เมื่อนั้นเราจะทำอะไรได้ดีกว่าเวลาที่เรากำลังมีจิตใจหงุดหงิดฟุ้งซ่าน
หนังสือชื่อ “การปรุงเป็นทุกข์อย่างยิ่ง การดับเป็นสุขอย่างยิ่ง” โดย พุทธทาสภิกขุ สำนักพิมพ์สุขภาพใจ สิงหาคม 2553 80 หน้า ราคา 35 บาท
——————————————————————
เกร็ดน่ารู้:
* เด็กเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
* คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
* แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติ
——————————————————————-
ขอเชิญติดตามหนังสือ “การปรุงเป็นทุกข์อย่างยิ่ง การดับเป็นสุขอย่างยิ่ง” ได้ที่ https://goo.gl/T6jH11
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น