คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 239 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “เอาชีวิตรอดในพิพิธภัณฑ์มหันตภัย 2” ค่ะ
=ภาพรวม=
หนังสือการ์ตูนที่สลับเป็นระยะ ๆ ด้วยบทความสั้น ๆ ในหัวข้อที่เกี่ยวข้องพร้อมภาพถ่ายจริงนี้เป็นหนึ่งในซีรี่ส์การ์ตูนความรู้วิทยาศาสตร์ “เอาชีวิตรอดใน…(สถานที่ต่าง ๆ)” จากประเทศเกาหลีที่อ่านได้ทุกวัยตั้งแต่เด็กประถมจนถึงผู้ใหญ่ค่ะ
เล่มนี้เป็นเรื่องราวของเด็ก ๆ 3 คน ที่ไปชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแล้วอยู่ ๆ ก็พบว่าตนเองหลุดเข้าไปในสถานการณ์จำลองการกำเนิดของโลกไปจนถึงยุคไดโนเสาร์ ยุคการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ รู้จักสัตว์และพืชต่าง ๆ ตลอดปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมด้วยค่ะ
ท่านจะสนุกไปกับการที่เด็ก ๆ ต้องประยุกต์ใช้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ธรรมชาติเพื่อเอาตัวรอดจากการผจญภัยในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ การดำเนินเรื่องน่าจะคล้ายภาพยนตร์ Night in the Museum นะคะ
=น่าสนใจจากในเล่ม=
* ถ้าสิ่งมีชีวิตปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปไม่ได้ก็จะสูญพันธุ์ เหมือนเช่นไดโนเสาร์
* ในครั้งนั้นนักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าอุกกาบาตพุ่งชนโลก เกิดฝุ่นละอองบังแสงแดด พืชจึงไม่เจริญเติบโต ส่งผลให้ไดนาเสาร์ไม่มีอาหารกิน
* ที่น่าตกใจคือการสูญพันธุ์ที่เกิดจากมนุษย์กลับรวดเร็วมากกว่าการสูญพันธุ์ที่เกิดจากธรรมชาติเป็นพันเท่า แผ่นดินไหวอาจทำให้สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งสูญพันธุ์ภายใน 4 ปี แต่มนุษย์อาจทำให้สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งสูญพันธุ์ไปได้ภายในวันเดียว
* ธรรมชาติสำคญต่อสิ่งมีชีวิตมาก เมื่อธรรมชาติธรรมชาติถูกทำลาย สิ่งมีชีวิตก็จะสูญพันธุ์ ทำให้ระบบนิเวศเสียสมดุล
* พืชจำพวกกระบองเพชรในพื้นที่แห้งแล้งจะพัฒนาลำต้นให้กักเก็บน้ำไว้ ถ้าเราตัดกระบองเพชรออกก็จะได้น้ำ นอกจากนี้ถ้าเราเจาะรูเล็ก ๆ บนลำต้นของต้นเมเปิลญี่ปุ่นให้สูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตรและเสียบใบไม้เข้าไปก็จะมีน้ำไหลออกมาให้กินได้
* สิ่งมีชีวิตอยู่บนโลกได้ก็เพราะมีพืช พืชเป็นทั้งอาหารของสัตว์ ช่วยผลิตอ๊อกซิเจน ไม้ก็นำมาสร้างบ้านได้ กระดาษ และเสื้อผ้าที่ทำจากฝ้ายก็ล้วนมาจากพืช นอกจากนี้เมื่อเกิดน้ำท่วมต้นไม้จะดูดซึมน้ำและรักษาพื้นดินรอบ ๆ ด้วยรากที่หยั่งลึกลงไปในดิน ช่วยป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติได้
* บนโลกมีพืชมากกว่า 300,000 ชนิด มีแมลงมากถึง 1.4-1.8 ล้านชนิด แมลงอายุสั้นแต่สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี
* เกล็ดของสัตว์เลื้อยคลานช่วยรักษาความชื้น มันจึงสามารถอาศัยอยู่ในที่แห้งแล้งอย่างทะเลทรายได้ แต่คนมักเอาหนังของสัตว์เลื้อยคลานไปทำรองเท้า กระเป๋า สัตว์บางชนิดจึงใกล้สูญพันธุ์
* งูอยู่ได้เป็นเดือน ๆ ทั้ง ๆ ที่กินอาหารเพียงครั้งเดียว
* งูแมมบ้าดำมีพิษที่ร้ายแรงกว่าพิษของงูจงอางถึง 70 เท่า อีกทั้งยังสามารถเลื้อยได้เร็วที่สุดในโลก แต่กบลูกศรพิษมีพิษร้ายแรงกว่าพิษของงูแมมบ้าดำเสียอีก
* แก๊สเรือนกระจก เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงรถยนต์และโรงงาน มนุษย์เป็นผู้ทำให้แก๊สเรือนกระจำเพิ่มขึ้นตลอดเวลา โลกจึงมีอุณหภูมิสูงขึ้น สัตว์ที่ขั้วโลกเหนือและใต้อย่างหมีขั้วโลกและนกเพนกวินอาจสูญพันธุ์ได้เร็ว ๆ นี้
หนังสือชื่อ “เอาชีวิตรอดพิพิธภัณฑ์มหันตภัย 2” เขียนโดย Gomdori co. ภาพประกอบโดย Han Hyun-Dong แปลโดย ศุภลักษณ์ อาศิรพจน์มนตรี สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่น กรกฎาคม 2556 208 หน้า ราคา 165 บาท
——————————————————————
เกร็ดน่ารู้:
* เด็กเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
* คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
* แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
(ที่มา: http://goo.gl/qH2arZ และ http://goo.gl/2Ue7S3)
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติค่ะ
——————————————————————-
ขอเชิญติดตามหนังสือ “เอาชีวิตรอดในพิพิธภัณฑ์มหันตภัย 2” ได้ที่ https://goo.gl/Rr1HFR
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น