คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 233 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “สุดป่วนก๊วนกระเป๋าตุง ตอน รวยง่าย ๆ สไตล์ชาวยิว” ค่ะ
ปีนี้หนี้ครัวเรือนของไทยอยู่ในดับสูงที่สุดในโลกถึง 80% มากสุดในรอบ 7 ปี นอกจากปัญหาจากนโยบายประชานิยมที่ผ่าน ๆ มาแล้วเราก็ไม่ได้ปลูกฝังวินัยทางการเงินที่ถูกต้องให้กับคนของเราโดยเฉพาะเยาวชนอย่างเพียงพอ หนังสือเล่มนี้จะตอบโจทย์ได้ดีทีเดียวค่ะ
=ภาพรวม=
การ์ตูนเล่มนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเงินในชีวิตประจำวันเด็กทั่วไปและแทรกด้วยเกร็ดความรู้เบื้องหลังความสำเร็จของชาวยิว ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ประสบความสำเร็จทางการเงินมากที่สุดในโลก เป็นการ์ตูนที่สอนวินัยทางการเงินได้ดีที่สุดเล่มหนึ่งเท่าที่เคยอ่านมา อีกทั้งยังมีเกร็ดความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับการออม หุ้น และกองทุนรวมด้วย ควรอ่านทั้งเด็กและผู้ใหญ่ค่ะ
=ประเด็นน่าสนใจจากในเล่ม=
* แม้ชาวยิวจะมีจำนวนน้อยเพียง 0.2% ของคนทั้งโลก แต่มีถึง 20% ที่เป็นเศรษฐีเงินล้านและ 40% เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดยักษ์
* พวกเขาทำได้เพราะได้เรียนรู้วิธีจัดการเงิน หาเงิน ใช้เงิน ออมเงิน และ ลงทุนตั้งแต่เด็ก
* พ่อแม่ชาวยิวสอนลูกว่า “โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี” ผ่านการให้เงินค่าขนม เด็ก ๆ จะต้องทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ แลกกับค่าขนมที่เหมาะสมเพื่อที่จะเข้าใจว่าเขาต้องทำงานถึงจะมีเงินใช้
* ค่าขนมของเด็กชาวยิวปัจจุบันไม่ได้อยู่ในรูปเงินสด แต่เป็น “เงินในสมุดบัญชีหุ้น” โดยพ่อแม่จะคุยกับลูกทุกเดือนว่าใครเล่นหุ้นได้กำไรมากที่สุด
* เด็ก ๆ ชาวยิวมีแผนจัดการเงินค่าขนมอย่างรอบคอบ โดยจะใช้เงินตามแผนการที่กำหนดไว้แต่แรก และจะตรวจสอบผลที่ได้กับพ่อแม่เสมอ
* พ่อแม่ชาวยิวมักจะพาลูก ๆ ไปทำงานด้วยตั้งแต่เด็ก เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้และช่วยเหลืองานและเข้าใจในความเหน็ดเหนื่อยของพ่อแม่ ซึ่งจะทำให้พวกเขาใช้เงินอย่างประหยัด ชาวยิวมีสุภาษิตว่า “ไม่สอนอาชีพให้ลูกก็เหมือนสอนลูกให้เป็นโจร”
* ในเทศกาลส่งท้ายปีเก่า พ่อแม่จะให้เงินเป็นรางวัลแก่ลูกโดยประเมินจากพฤติกรรมตลอดทั้งปี ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับการกระทำจะช่วยฝึกนิสัยการใช้เงินของเด็กได้
* ชาวยิวจะปลูกฝังนิสัยการรักษาของใช้อย่างทะนุถนอมมาตั้งแต่เล็ก ๆ และสอนให้ใช้ฝีมือแปลงโฉมของเก่า ๆ ให้ดูมีคุณค่าขึ้นด้วย
* พิธีบรรลุนิติภาวะของชาวยิวจะจัดขึ้นในวันเกิดครบรอบ 13 ปี โดยแขกผู้มาในงานจะมอบเงินอวยพรคนละประมาณ 200 เหรียญสหรัฐ (ปัจจุบันอยู่ระหว่าง 30-35 บาท) เจ้าภาพจะนำเงินนี้ไปออมเป็นเวลา 10 ปี เมื่อเด็กเรียนจบจะเริ่มทำงานก็จะสามารถนำเงินไปเป็นต้นทุนได้ทันที
* ชาวยิวมองการกุศลเป็นเรื่องใหญ่ โดยจะปลูกฝังเรื่องการเก็บออมเพื่อการกุศลให้ลูกตั้งแต่เด็กด้วย ในงานเลี้ยงชาวยิวจะเห็นเด็กตัวเล็ก ๆ ตั้งแต่อนุบาลและประถมเดินขายคุ้กกี้หรือท้อฟฟี่เป็นการฝึกฝนเทคนิคการค้าขาย กำไรที่ได้เด็ก ๆ จะบริจาคให้คนยากจน
* ชาวยิวมีหลักในการบริหารเวลาที่ดีเยี่ยมเพราะเขามีสุภาษิตว่า “เวลาคือเงิน” นอกจากนี้เขายังมีสุภาษิตว่า “แขกที่ไม่คาดคิดคือขโมย” หมายถึง คนที่มาหาโดยไม่ได้นัดหมายก็คือขโมยดี ๆ นี่เอง
* ชาวยิวเห็นคุณค่าของ “ความรู้” สูงกว่าเงิน เพราะเงินอาจสูญหายได้แต่ความรู้จะเป็นทรัพย์ที่ติดตัวไปตลอดชีวิต ชาวยิวมักจะเป็นพหูสูต คือเรียนรู้หลาย ๆ ด้าน ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ประวัติศาสตร์ หรือแม้แต่กีฬา ความรอบรู้ทุกด้านนี้ทำให้เขาสามารถรักษาและเพิ่มพูนทรัพย์สินได้
* คัมภีร์ทัลมุดโบราณของยิวสอนให้รักษาทรัพย์สินที่มีอยู่ใน 3 รูปแบบเสมอ คือ 1) เงินสด-เงินฝาก 2) สังหาริมทรัพย์ที่เป็นของมีค่า และ 3) อสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคาร-ที่ดิน
* 98% ของร้านเพชร 2,600 ร้านในนิวยอร์ค ซึ่งเป็นตลาดเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีชาวยิวเป็นเจ้าของ ทรัพย์สินกว่า 75% ของอเมริกาเป็นของชาวยิวที่มีจำนวนเพียง 2% ของประชากร
* ชาวยิวให้ความสำคัญกับคำสัญญาเป็นอย่างมาก เขาถือว่าคำสัญญาที่เปล่งออกไปแล้วเป็นการทำสัญญากับพระเจ้า มีสำนวนยิวว่า “คนที่ยืมเงินแล้วไม่คืนก็ไม่ต่างอะไรกับขโมย”
* ชาวยิวเป็นชนชาติแรกที่เริ่มการใช้หลัก “เงินต่อเงิน” ผ่านธุรกิจทางการเงินต่าง ๆ ตั้งแต่ธนาคาร สถาบันการเงิน รวมถึงตลาดหลักทรัพย์
* สำหรับชาวยิวแล้วไม่ว่าอาชีพอะไร ถ้าหาเงินได้และสุจริตก็โอเคทั้งนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นหมอหรือวิศวกร ทั้งนี้พวกเขาให้ความสำคัญกับการใช้เงินอย่างชาญฉลาดมากกว่าวิธีการหาเงินนั่นเอง
* เด็ก ๆ ชาวยิวเมื่อจบมัธยมปลายไปเรียนต่อแล้วมักทำงานพิเศษหรืออาจลงทุนเล่นหุ้นเพื่อเพิ่มรายได้ เมื่อเรียนจบแล้วก็จะคืนค่าเล่าเรียนทั้งหมดให้พ่อแม่ ชาวยิวถือว่าการขอเงินพ่อแม่หรือใช้เงินคนอื่นเพื่อการดำรงชีวิตเป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก
หนังสือชื่อ “สุดป่วนก๊วนกระเป๋าตุง ตอน รวยง่าย ๆ สไตล์ชาวยิว” โดย Iloom แปลโดย อภิศรี นิรุตติปัญญากุล การ์ตูนความรู้นานมี มีนาคม 2553 184 หน้า ราคา 148 บาท
——————————————————————
ขอเชิญติดตามหนังสือ “สุดป่วนก๊วนกระเป๋าตุง ตอน รวยง่าย ๆ สไตล์ชาวยิว” ได้ที่ https://goo.gl/6FbgZO
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น