คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 381 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “นิสัยเศรษฐี คนมีดี ไม่ได้มีแค่เงิน”
=ภาพรวม=
หนังสือที่แปลจากภาษาญี่ปุ่นเล่มนี้จะมาเล่าให้คุณฟังถึงวิธีคิดและวิธีใช้ชีวิตของเหล่ามหาเศรษฐีต่าง ๆ จากทั่วโลกที่ผู้เขียนได้มีโอกาสรู้จักและสัมภาษณ์ถึง 2,000 คน
เป็นเล่มต่อจากเล่ม “ความลับเศรษฐี คนแบบนี้แหละดึงดูดเงิน” (อ่านรีวิวได้ที่นี่ https://goo.gl/Bkxwm4 )
ประเด็นหลักที่เล่มนี้เน้นก็คือ สิ่งที่ “มหาเศรษฐีที่มีความสุข” ล้วนมีเหมือนกันคือทักษะในการ “คบค้าสมาคมกับผู้อื่น” โดยผู้เขียนได้ยกตัวอย่างสถานการณ์จริงมาเล่า พร้อมทั้งสรุปเป็นเคล็ดลับให้อย่างย่อ ๆ
อ่านโดยรวมแล้วให้ความรู้สึกว่า มหาเศรษฐีที่มีความสุขคือผู้ที่คิดถึงประโยชน์ของผู้อื่นก่อนตนเอง และใส่ใจความรู้สึกคนรอบข้างแม้จะเป็นคนที่ด้อยกว่าทั้งในด้านสังคมหรือวัยวุฒินั่นเอง
=น่าสนใจจากเล่ม=
* มหาเศรษฐีที่มีความสุข ต้องพรั่งพร้อมด้วยสมบัติ 4 ประการ คือ “เงิน” “มิตร” “อิสระด้านเวลา” และ “สุขภาพที่แข็งแรง”
* ถ้าต้องการที่จะได้ข้อมูลที่มีประโยชน์ ควรเริ่มจากการสร้างตัวเองให้เป็นที่น่าเชื่อถือ
* ทั้งคนและเงินต่างชอบอยู่กับคนที่รู้จักชมผู้อื่น และถ้าจะให้ดีควรชมทางอ้อมด้วย คือ ชมลับหลังเขาให้ผู้อื่นฟัง ตลอดจนชมลูกน้องเขาและชมคู่ครองของเขา
* จงใช้เวลาอยู่ร่วมกับคนที่คิดว่าตัวเองเป็นคนโชคดี ถ้าตั้งความปรารถนาอย่างแรงกล้วว่าอยากเรียนรู้จากคนคนนี้ โอกาสที่จะได้พบบุคคลดังกล่าวย่อมเวียนมาสักวัน ลองซักซ้อมดูว่าหากได้พบแล้วจะพูดคุยหรือถามเรื่องอะไร
* “สิทธิ์ในการร่วมโต๊ะอาหารกลางวันกับวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนอันดับ 1 ของโลก” เปิดประมูลทางอินเทอร์เน็ตเป็นประจำทุกปี ในปี 2012 ราคาประมูลสูงสุดอยู่ที่ 120 ล้านเยน และวอร์เรน บัฟเฟตต์ได้บริจาคเงินทั้งหมดเข้าการกุศล
* ถ้าอีกฝ่ายเป็นมหาเศรษฐีที่มีทุกอย่างพร้อมแล้ว ต้องให้อะไรเขาถึงจะดีใจ? “การอุทิศตน ข้อมูลข่าวสาร และงานอดิเรก”
* มหาเศรษฐีที่มีความสุขจะชอบให้แบบไม่หวังผลตอบแทน รู้จักกล่าวคำขอโทษแม้กับเรื่องเล็กน้อย และมีความอ่อนน้อมถ่อมตนกับทุกคน
* เคล็ดลับ 6 ข้อสำหรับเปลี่ยนบรรยากาศเวลารู้สึกย่อท้อ 1) ออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นให้ฮอร์โมนแห่งความกระตือรือร้นหลั่งออกมา 2) ดูภาพยนตร์เชิงบวกหรือประวัติคนประสบความสำเร็จ 3) นึกถึงเรื่องราวสนุกสนานในอดีต 4) นึกถึงสถานที่ดี ๆ ที่เคยไปในอดีต 5) เปิดดนตรีที่ถูกใจฟังซ้ำหลาย ๆ รอบ (ต้องเป็นดนตรีแนวสดใส) 6) รับฟังปัญหาของผู้อื่น เพราะระหว่างที่เราพยายามช่วยผู้อื่น เรามักลืมเรื่องกลุ้มใจของตนเอง
* มหาเศรษฐีที่มีความสุขพยายามค้นหา “ข้อดี” ของบุคคลรอบข้างอยู่เสมอ และไม่เคยลืมบุญคุณคน
* ผลการสำรวจสัดส่วนผู้ชมรายการประเภทเรียลลิตี้ (รายการที่คอยติดตามดูชีวิตของผู้อื่น)ในอเมริกาพบว่า 78% ของผู้ชมเป็นคนระดับยากจน ในขณะที่ผู้ชมระดับเศรษฐีมีเพียง 6% เท่านั้น ยิ่งคนมีฐานะดีขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งไม่เก็บเรื่องชีวิตของคนอื่นมาใส่ใจ เพราะการใส่ใจชีวิตผู้อื่นมากเกินไปจะถ่วงความเจริญของตนเอง
* ซุนจื๊อ นักปราชญ์จีนสมัยโบราณเคยกล่าวไว้ว่า “ข่าวโคมลอยมักหยุดอยู่ที่นักปราชญ์” หมายความว่า ข่าวโคมลอยหรือข่าวลือจะแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหมู่คนเขลา ทว่าผู้มีปัญญาจะไม่เชื่อหรือนำไปบอกต่อ
* คนทั่วไปมักเอาสถานการณ์ปัจจุบันของตนเองเป็นจุดตั้งต้นเวลาตั้งเป้าหมายในชีวิต แต่มหาเศรษฐีผู้มีความสุขจะเริ่มจาก “อนาคตอยากเป็นเช่นไร” เพราะเมื่อกำหนดเป้าหมายในอนาคตได้ ก็จะสามารถกำหนดสิ่งที่ควรทำในเวลานี้ด้วยการคำนวณย้อนได้
* แม้ปัจจุบันจะอยู่ในสภาพเท่ากับศูนย์ สิ่งที่ต้องคิดก็มีเพียงแค่ว่า จากนี้ควรทุ่มเทความพยายามไปในทิศทางใด
* อย่าใช้เงินหรือตำแหน่งเป็นเป้าหมายของชีวิต ควรตั้งความฝันที่จะเป็นประโยชน์ต่อคนหมู่มากมากกว่า ความฝันที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นด้วยมักได้รับการสนับสนุน
* “การทำความดี” ควรเริ่มทำตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนั้น ๆ เพราะวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า เมื่อคนเราอยู่ในภาวะสดชื่นเบิกบานจากการทำความดีมักจะมองข้ามด้านลบของสิ่งต่าง ๆ ไปและจะลงมือทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความมุ่งมั่น อีกทั้งแสดงความมีน้ำใจต่อผู้อื่น ดังนั้นถ้าเริ่มทำความดีควรทำแต่เช้า เพราะนอกจากจะสดชื่นเบิกบานตลอดทั้งวันแล้วการทำงานทุกอย่างก็จะราบรื่นไปด้วย
* คนจนมักกังวลในสิ่งที่ตนเองควบคุมไม่ได้ เช่น “ถ้าหุ้นตกต้องแย่แน่ ๆ…” แต่มหาเศรษฐีผู้มีความสุขจะพุ่งเป้าไปที่สิ่งที่ใช้สติปัญญาของตนแก้ไขได้ เช่น “เราจัดหามาตรการป้องกันความเสี่ยงในกรณีหุ้นตกไว้พร้อมหรือยังนะ”
* เมื่อรู้จักพูดคำว่า “ขอบคุณ” โชคด้านการเงินและความสุขก็จะเข้ามาหา ฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าก็จะหลั่งออกมา และทำให้เกิดความมั่นใจในตนเองและเกิดแรงจูงใจในการทำสิ่งต่าง ๆ อีกด้วย
* ควรขอบคุณครอบครัวตัวเองทุกคนตั้งแต่พ่อแม่ปู่ย่าตายายสามีภรรยา รวมไปถึงขอบคุณธรรมชาติต่าง ๆ และควรจะรู้สึกขอบคุณที่ตนเองยังมีโอกาสลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นด้วย เพราะในญี่ปุ่นมีคนที่นอนหลับแล้วเสียชีวิตไปปีละหลายหมื่นคน
หนังสือชื่อ “นิสัยเศรษฐี คนมีดี ไม่ได้มีแค่เงิน” โดย โทนี่ โนะนากะ แปลโดย อนิษา เกมเผ่าพันธ์ สำนักพิมพ์อมรินทร์ How To พิมพ์ครั้งที่ 2 พฤศจิกายน 2558 177 หน้า ราคา 189 บาท
——————————————————————
เกร็ดน่ารู้:
* เด็กเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
* คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
* แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติ โดยผู้วิจารณ์เลือกอ่านเองโดยอิสระไม่ได้รับจ้างสำนักพิมพ์ใดมาเขียน
เพจ “ดร.ณัชร” นั้นเกิดขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะทำความดีถวายในหลวง และเพื่อเทิดพระเกียรติพระอัจฉริยภาพในด้านต่าง ๆ ในการสร้างความสุขและความสำเร็จที่ยั่งยืน
——————————————————————-
ขอเชิญติดตามหนังสือ “นิสัยเศรษฐี คนมีดี ไม่ได้มีแค่เงิน” ได้ที่ https://goo.gl/fbNMHn
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น