วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2559

มีลูกหลานสนใจเรียนหมอ?


คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 260 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “เอาชีวิตรอดในร่างกายมนุษย์ 3”  ค่ะ


=ภาพรวม=

หนังสือการ์ตูนวิทยาศาสตร์ที่มีการสลับฉากเป็นระยะ ๆ ด้วยบทความสั้น ๆ และภาพกราฟฟิกสีสดใสนี้เป็นหนึ่งในซีรี่ส์การ์ตูน “เอาชีวิตรอดใน…” จากประเทศเกาหลีค่ะ
ในเล่มเป็นเรื่องราวต่อจาก 2 ตอนที่แล้วที่เด็กชายจีโอและดร.จิมที่นั่งยานสำรวจย่อส่วนด้วยรังสีแล้วเกิดอุบัติเหตุหลุดเข้าปากของเด็กหญิงฟีฟี้ไปพร้อมกับขนมที่เธอทาน  หลังจากได้เดินทางผ่านระบบทางเดินอาหารของเด็กหญิงฟีฟี้แล้วยานสำรวจก็ถูกดูดเข้าไปในระบบเลือด
เนื้อหาของเล่มนี้ยานสำรวจย่อส่วนจะเข้าไปในสมองและระบบประสาท  แถมไปเจอเนื้องอกในสมองของเด็กหญิงฟีฟี้ด้วย!  ดร.จิมจะช่วยเธอได้หรือไม่?  ด้วยวิธีใด?
ต้องชื่นชมความรู้และความคิดสร้างสรรค์ของผู้เขียนที่สามารถ “สอนวิทยาศาสตร์” ผ่านเรื่องราว “การผจญภัย” ของยานสำรวจจิ๋วภายในร่างกายได้อย่างสนุกและน่าติดตามค่ะ
=น่าสนใจจากในเล่ม=
*  สมองเป็นระบบประสาทส่วนกลางในร่างกายร่วมกับไขสันหลัง  สมองมนุษย์มีน้ำหนักประมาณ 1.4 กิโลกรัม  ประกอบด้วยเซลล์ประสาทมากกว่า 90% ของเซลล์ประสาททั้งหมดในร่างกาย
*  สมองของเรามี 3 ส่วน  เซรีบรัมเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุด ทำงานที่ซับซ้อน  เซรีเบลลัมอยู่ด้านหลัง ขนาดเล็กเท่าลูกกอล์ฟ ช่วยเรื่องการเคลื่อนไหวและควบคุมการทรงตัว
ส่วนก้านสมองมีรูปร่างเหมือนไม้เท้า  เป็นทางผ่านของกระแสประสาท  ช่วยควบคุมการทำงานพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น การเต้นของหัวใจ การหายใจ ความดันเลือด
*  สมองเป็นอวัยวะที่บอบบางมาก  เพียงแค่เอานิ้วแตะสมองก็เสียหายได้  ดังนั้นสมองจึงต้องมีการป้องกันจากกระโหลกศีรษะ น้ำเลี้ยงสมอง ไขสันหลัง และเยื่อหุ้มสมอง
*  เมื่อศีรษะกระแทก  ประสาทการมองเห็นก็ได้รับการกระตุ้นจากแรงกระแทก  ทำให้กระแสประสาทที่ส่งไปยังสมองผิดปกติ  ทำให้เราเห็นสิ่งที่คล้ายดาวที่จอตา
*  เนื้องอกและมะเร็งแตกต่างกัน  เนื้องอกคือเนื้อเยื่อที่โตขึ้นอย่างผิดปกติในร่างกายของเรา  บื่งออกเป็นเนื้อร้ายหรือไม่ใช่เนื้อร้าย
*  เนื้องอกที่ไม่ใช่เนื้อร้ายจะโตช้าและไม่แพร่กระจาย  แต่เนื้อร้ายจะโตเร็วและแพร่กระจายไปบริเวณโดยรอบ  มีโอกาสพัฒนาเป็นมะเร็ง  ทำให้อันตรายถึงชีวิต
*  นักกีฬาเคลื่อนไหวได้รวดเร็วกว่าคนปกติเพราะเซรีเบลลัมพัฒนามาก เนื่องจากได้รับการฝึกฝนมาเป็นเวลานานนั่นเอง
*  สมองเชื่อมทุกส่วนของร่างกายเราผ่านเส้นประสาทสมองและเส้นประสาทไขสันหลัง  ดังนั้นข้อมูลจากร่างกายที่ไปยังสมองจะต้องผ่านไขสันหลัง  จากนั้นสมองจะวิเคราะห์และสรุปเป็นคำสั่งลงมาที่อวัยวะต่าง ๆ ผ่านทางไขสันหลังอีกเช่นเดียวกัน
*  ไม่ว่ามนุษย์จะหายใจ ฟัง พูด หรือเคลื่อนไหวด้วยท่าทางต่าง ๆ ล้วนมาจากคำสั่งของสมองทั้งนั้น
*  สมองมีน้ำหนักเพียงประมาณ 2% ของน้ำหนักตัว  แต่กลับต้องใช้ปริมาณออกซิเจนที่ร่างกายรับเข้าไปถึง 20-25%  หากสมองขาดเลือดทำให้ไม่มีออกซิเจนประมาณ 1 นาที จะส่งผลให้หมดสติ  แต่ถ้าสมองขาดเลือดนานกว่า 5 นาที เซลล์สมองจะเสียหายมาก
*  เมื่อคนพูดโกหก ต้องอาศัยจินตนาการและแต่งเรื่องขึ้นโดยใช้สมองซีกขวา  ดังนั้นเมื่อสมองซีกขวาที่ควบคุมร่างกายซีกซ้ายทำงาน ตาเราจึงมองไปทางซ้ายโดยอัตโนมัตินั่นเอง
หนังสือชื่อ “เอาชีวิตรอดในร่างกายมนุษย์ 3” เขียนโดย Gomdori co. ภาพประกอบโดย Han Hyun-Dong แปลโดย วลี จิตจำรัสรัตน์   สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่น พิมพ์ครั้งที่ 1 กันยายน 2554  176 หน้า  ราคา 148 บาท
——————————————————————-
เกร็ดน่ารู้:
*  เด็กเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
*  คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
*  แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
(ที่มา: http://goo.gl/qH2arZ และ http://goo.gl/2Ue7S3)
คอลัมน์  “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติค่ะ
——————————————————————-
ขอเชิญติดตามหนังสือ “เอาชีวิตรอดในร่างกายมนุษย์ 3” ได้ที่ https://goo.gl/Cuj8PB

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น