วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559

มาอ่านข้อคิดจากชาวต่างชาติที่ชื่นชมพ่อหลวงของเรากัน


คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 383 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “เรียนรู้จากพระเจ้าแผ่นดิน”  โดย แมนเฟรด คราเมส



=ภาพรวม=
หนังสือเล่มนี้เขียนโดยชาวเยอรมันผู้สนใจศึกษาพระพุทธศาสนาและได้มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ศรีลังกา และประเทศไทย   ในขณะที่พำนักอยู่ในประเทศไทย  เขาได้ศึกษาพระกรณียกิจตลอดจนพระจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างละเอียดและรู้สึกชื่นชมซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง
หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เขียนขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพียงอย่างเดียว  แต่เพื่อเรียกร้องให้ชาวไทยประพฤติปฏิบัติตนตามอย่างที่พระผู้ทรงเป็น “ครูของแผ่นดิน” ได้ทรงกระทำเป็นตัวอย่างด้วย
การได้รับฟังมุมมองจากชาวต่างชาติผู้ปรารถนาดีต่อชาวไทยและประเทศไทยนั้นเป็นประโยชน์มาก ถึงแม้ผู้เขียนจะเขียนซ้ำไปมาบ้างในบางประเด็น  แต่ก็คุ้มค่าที่จะอ่านอย่างยิ่ง
=น่าสนใจจากเล่ม=
*  “…การสรรเสริญและการแสดงความขอบคุณเป็นคนละเรื่องกัน  ผมไม่ทราบว่าคนส่วนใหญ่เข้าใจและรับรู้ข้อมูลจริง ๆ ในสิ่งที่พระองค์ทรงสื่อสารให้ผู้คนได้รับทราบมากน้อยเพียงใด  และจะมีสักกี่คนที่สามารถรวบรวมปัญญา และแนวทางที่พระองค์ทรงพระราชทานให้เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตจริง ๆ…”
*  ผมคิดว่าเป็นการไม่รับผิดชอบที่จะนั่ง ๆ นอน ๆ ใช้ชีวิตอย่างสบาย และให้คนคนเดียวทำงานอย่างหนักเพื่อดูแลและแก้ปัญหาของชาติ  ท่าทีเช่นนี้เป็นสิ่งที่แสดงถึงความไม่เคารพต่อพระองค์
*  ประเทศหลายแห่งในโลกจะดีใจที่มีพระมหากษัตริย์เช่นนี้  แต่คุณเองเป็นคนไทย มีพระองค์เป็นกษัตริย์  แต่ถ้าไม่ได้นำสิ่งที่เป็นประโยชน์จากพระองค์มาใช้ในชีวิตเลย ผมคิดว่าน่าละอาย
*  อันดับแรก  ชาวไทยควรจะต้องเข้าใจคุณค่าของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างถ่องแท้ และผสมผสานแนวทางแห่งพระพุทธศาสนาของพระองค์ลงไปในการดำเนินชีวิตประจำวันเสียก่อน  สิ่งเหล่านี้ควรจะได้รับการบรรจุลงไปในหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียนทุกแห่ง
*  ผมเคยเขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงเจ้าหน้าที่ประจำคณะรัฐมนตรีศึกษาธิการของประเทศไทย  รวมถึงขอเข้าพบเพื่อเสนอแนวทางแก้ปัญหา  แต่พวกเขาไม่มีแม้แต่จะตอบกลับมาว่าได้รับจดหมายแล้ว  นี่คือผลลัพธ์ของค่านิยมตะวันตกและกระแสแห่งการบริโภคนิยม  ซึ่งถูกกระตุ้นโดยนักการเมืองไทย(สมัยหนึ่ง)
*  เรื่องที่น่าสลดใจก็คือ  คนไทยทั้งหลายยังไม่ได้ตระหนักในสิ่งนี้  ทุกคนภาคภูมิใจในการมีพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่  แต่แนวคิดอันเป็นรากฐานของสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง การเป็นแรงบันดาลใจ ความเป็นตัวอย่างที่ดีและวิถีแห่งการดำเนินชีวิตของพระองค์ไม่ได้ถูกรับเอามาใช้เต็มที่
*  ทุกคนควรจะตระหนักว่าหนทางเดียวที่จะแสดงความเคารพต่อครูก็คือเรียนรู้จากพระองค์เพื่อที่จะนำความรู้นั้นไปช่วยเหลือคนอื่น  ไม่ใช่เพียงแค่แขวนพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ไว้ในบ้าน
*  เราควรถามตนเองว่าในฐานะปัจเจกบุคคลเราได้ทำอะไรไปแล้วบ้างหรือไม่อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อทำให้โลกนี้ดีขึ้น  โดยยึดแนวทางของพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติ
*  ตามปกติ ผู้คนที่มาจากซีกโลกตะวันออกแต่เติบโตในซีกโลกตะวันตกเป็นเวลานานจะได้รับอิทธิพลจากซีกโลกตะวันตกซึ่งยากที่จะขจัดออกไปได้  น่าประหลาดใจที่สิ่งดังกล่าวมิได้เกิดขึ้นแก่พระเจ้าอยู่หัวเลย
*  ในทางกลับกัน พระองค์เพียงทรงเรียนรู้ในสิ่งที่ดีงามและเป็นประโยชน์จากโลกตะวันตก  โดยมิได้ทรงหลงพระองค์เข้าไปอยู่ในอิทธิพลของโลกตะวันตกเลยแม้แต่น้อย  และยังคงทรงยึดมั่นศรัทธาในพระพุทธศาสนา และแนวทางในการดำเนินชีวิตของโลกตะวันออก ที่ฝังแน่นมาในวัฒนธรรมสืบต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน
*  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเคยซ่อมสิ่งของต่าง ๆ ด้วยพระองค์เอง  คุณลองจินตนาการถึงภาพพระราชจริยวัตรดูสิว่า ตัวคุณรู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้เห็นภาพเช่นนั้น  ทรงแสดงให้เราเห็นอย่างชัดเจนว่า “ไม่มีงานใดยกเว้นไว้สำหรับพระองค์”
*  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงนำหลักธรรมของพระพุทธศาสนามาใช้จริง ๆ  ครั้งหนึ่งเมื่อมีรถจักรยานยนต์พุ่งเข้าชนรถยนต์พระที่นั่งที่ทรงขับด้วยพระองค์เองจนรถพระที่นั่งได้รับความเสียหาย ก็มิได้ทรงตระหนกตกใจ  หากแต่ทรงดำเนินการด้วยพระอาการที่สงบ เยือกเย็น (ด้วยกำลังพระสติ – ผู้วิจารณ์) ทรงรับสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล
*  อีกครั้งหนึ่งระหว่างเสด็จฯ เยี่ยมพสกนิกรในถิ่นทุรกันดารเมื่อ 22 ก.ย. 2517  เกิดระเบิดขึ้นห่างจากที่ทรงประทับยืนเพียง 40 ม.  ก็ทรงมิได้มีพระอาการตื่นตระหนกประการใด
*  คุณเคยดุด่าลูก ๆ หรือแสดงอารมณ์โกรธกับลูก ๆ หรือเปล่า  คุณมีความรักและความอดทนพอที่จะอธิบายเรื่องต่าง ๆ ให้ลูก ๆ ได้รับฟังหรือเปล่า  คุณควรให้เวลาแก่ลูก บำรุงขวัญลูกโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ  นี่เป็นวิธีการที่พระเจ้าอยู่หัวได้ทรงปฏิบัติต่อพสกนิกรของพระองค์
*  การทำสมาธิ เป็นวิธีการที่จะช่วยให้เราเกิดปัญญาในการตัดสินว่าอะไรเป็นสาระสำคัญที่สุดในชีวิตของเรา  ซึ่งพระเจ้าอยู่หัวทรงถือปฏิบัติเป็นประจำ  การที่ใครสักคนหนึ่งเลือกใช้ชีวิตด้วยสติปัญญา และยังเป็นพุทธมามกะที่ดีพร้อม…ปรากฏอยู่ต่อหน้าเราตลอดเวลาเช่นนี้แล้ว  เหตุใดพวกเราจึงยังคงหลับตากันอยู่
*  ทั้ง ๆ ที่พระองค์ทรงประสบความสำเร็จในพระราชภารกิจน้อยใหญ่  แต่ก็มิได้ทรงโอ้อวดความสำเร็จของพระองค์เลยแม้แต่น้อย  แต่กลับทรงถ่อมพระองค์…และคงความต่อเนื่องในการทรงปฏิบัติพระราชภารกิจเพื่อพสกนิกรที่ต้องการความช่วยเหลือจากพระองค์
*  ผมแน่ใจว่าพระเจ้าอยู่หัวจะทรงปลื้มปิติและทรงมีความสุขเป็นอย่างยิ่งที่พสกนิกรของพระองค์ส่วนใหญ่ได้เดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท  ยึดพระองค์เป็นตัวอย่างและเรียนรู้จากพระองค์แทนที่จะแสดงความจงรักภักดีเฉพาะแต่เพียงวาจาเท่านั้น
หนังสือชื่อ “เรียนรู้จากพระเจ้าแผ่นดิน” โดย แมนเฟรด คราเมส สำนักพิมพ์ กรีนปัญญาญาณ จำกัด พิมพ์ครั้งที่ 4 กรกฎาคม 2555 176 หน้า ราคา 159 บาท
——————————————————————
เกร็ดน่ารู้:
*  เด็กเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
*  คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
*  แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
คอลัมน์  “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติ  โดยผู้วิจารณ์เลือกอ่านเองโดยอิสระไม่ได้รับจ้างสำนักพิมพ์ใดมาเขียน
เพจ “ดร.ณัชร” นั้นเกิดขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะทำความดีถวายในหลวง  และเพื่อเทิดพระเกียรติพระอัจฉริยภาพในด้านต่าง ๆ ในการสร้างความสุขและความสำเร็จที่ยั่งยืน
——————————————————————-
ขอเชิญติดตามหนังสือ “เรียนรู้จากพระเจ้าแผ่นดิน” ทั้งในแบบรูปเล่มและ e-book ได้ที่ https://goo.gl/UCpnYE

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น