แม้ว่าชีวิตเราจะยังดำเนินไปอย่างปกติอยู่
ก็ไม่ควรประมาท
=ภาพรวม=
หนังสือเล่มนี้รวมบทความต่าง ๆ จากหนังสือ 7
เล่มของท่านว.วชิรเมธี ในเรื่องเกี่ยวกับท่าทีของพระพุทธศาสนาที่มีต่อความตาย
ทั้งของตนเองและคนรอบตัว
เขียนในสไตล์เรื่องเล่า อ่านง่าย
มีตัวอย่างประกอบ
เหมาะสำหรับไว้อ่านเองเพื่อเตรียมตัวเตรียมใจสำหรับโมงยามสุดท้ายของชีวิตตนเอง
และไว้สำหรับเตรียมรับมือกับการพลัดพรากจากบุคคลผู้เป็นที่รัก
ชาวพุทธแท้ควรอ่านเตรียมใจเอาไว้ก่อน
เพราะเราไม่รู้ได้ว่าความตายของเราหรือคนใกล้ชิดจะมาเยือนเมื่อใด
=น่าสนใจจากในเล่ม=
* “...ทุกนาทีมีค่ากว่าเพชรพลอย
ไม่ควรปล่อยเปล่าเปลืองเรื่องหลากหลาย
สิ่งใดเป็นแก่นสารอันไม่ตาย
ควรท้าทายทำเรื่องนี้ให้ดีพอ...”
*
ความตายเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาและเป็นเนื้อเดียวกันกับชีวิต
ในเมื่อเราไม่สามารถแยกชีวิตกับความตายออกจากกันเป็นเอกเทศ
ความตายจึงไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่เป็นเรื่องที่ “ควรเรียนรู้”
* พระพุทธที่ว่า “เป็นธรรมดาของสังขาร
ที่เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วจะต้องแตกดับไป” นั้นสำคัญมาก
เพราะสะท้อนความจริงว่าพระพุทธองค์ทรง “ยอมรับ” ความตายว่าเป็นเรื่องธรรมดา
*
ธรรมดาของชีวิตที่มนุษย์ทุกคนต้องเรียนรู้เอาไว้ให้เท่าทันมี 5 ประการ คือ
เราทุกคนมีความแก่, ความป่วย, ความตาย, ความพลัดพราก
เป็นธรรมดา และทุกคนมี “กรรม” เป็นสมบัติของตน
* ความทุกข์ในชีวิตของเรา
เป็นปฏิกิริยาผกผันกับความเข้าใจที่เรามีต่อโลกและชีวิตเสมอ
หากเรารู้จักโลกและชีวิตตามความเป็นจริงมาก ความทุกข์ก็จะน้อย
หากเรารู้จักโลกและชีวิตน้อย ทุกข์ก็จะมาก
* ดังนั้น
ความทุกข์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตนี้คือดัชนีชี้วัดภูมิปัญญาของเราแต่ละคน
ทุกข์มากเพราะปัญญาน้อย ทุกข์น้อยเพราะปัญญามาก หมดทุกข์เพราะถึงที่สุดแห่งปัญญา
* ความกลัวตายจะหายลงไปจริง ๆ
นั้นต้องระดับพระอนาคามีขึ้นไป
* ท่ามกลางเวลาของชีวิตที่มีอยู่อย่างจำกัดนี้
เราไม่จำเป็นต้องสนใจไปเสียทุกเรื่อง ใส่ใจไปเสียทุกคน
เพราะมิเช่นนั้นแล้วเวลาอันแสนจำกัดในชีวิตของเราจะถูกพร่าผลาญไปอย่างไม่คุ้มค่า
* “คนที่สำคัญที่สุด คือ
คนที่อยู่เบื้องหน้าเราขณะนี้ งานที่สำคัญที่สุด คือ งานที่เรากำลังทำอยู่ในขณะนี้
เวลาที่ดีที่สุด คือ เวลาปัจจุบันขณะ” -- ลีโอ ตอลสตอย
* ทุกครั้งที่เวลาไหลผ่านเราไป
หากเราไม่ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ชีวิตเราก็พร่องไปแล้วจากประโยชน์มากมายที่เราควรได้จากห้วงเวลา
* เวลาไม่มีตัวตน แต่หากเรามีปัญญา
ก็สามารถสร้างคุณค่าที่เป็นรูปธรรมจากเวลาได้อเนกอนันต์ ในทางตรงกันข้าม
คนเราแม้มีตัวตนเห็นกันชัด ๆ แต่หากปฏิบัติไม่ถูกต่อเวลา
ชีวิตก็อาจว่างเปล่ายิ่งกว่าเวลา
* ทุกวันนี้ เราไปเน้นที่การรักษาคนก่อนจะตาย
แต่ไม่เน้นเรื่องที่จะทำอย่างไรจึงจะตายอย่างสันติ คือ
ให้ตัวผู้ที่จะตายก็ตายอย่างมีความสุข และผู้ที่อยู่ข้างหลังก็อยู่อย่างมีความสุข
หนังสือชื่อ “มรณา...วิชาสุดท้าย” โดย
ว.วชิรเมธี สำนักสัปปายะ 2558 208 หน้า ราคา 59 บาท มีจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำและเวบไซต์ร้านหนังสือทั่วไป
-------------------------------------------------------------------
เกร็ดน่ารู้:
* เด็กเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60
เล่ม/คน
* คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
* แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ
4 เล่ม/คน
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้
จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติ
เพจ “ดร.ณัชร” เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะทำความดีถวายในหลวง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น