ความสามารถในการ “ตัดสินใจได้ทันที” สามารถทำให้คุณภาพชีวิตคุณดีขึ้นได้!
=ภาพรวม=
หนังสือ bestseller ของญี่ปุ่นเล่มนี้เขียนโดยมนุษย์เงินเดือนชาวญี่ปุ่นผู้สนใจศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง เขาเขียนหนังสือขายดีหลายเล่ม
เล่มนี้เป็นแนวพัฒนาตนเองโดยผ่านวิธีขัดเกลาและลับคมทักษะใน “ตัดสินใจได้ในทันที” ซึ่งผู้เขียนกล่าวว่า จะช่วยให้ประสบความสำเร็จทั้งในแง่ธุรกิจและพัฒนาศักยภาพตนเองในเรื่องส่วนตัวด้วย
=น่าสนใจจากในเล่ม=
* โดยเฉลี่ยแล้ว ถ้ารวมเรื่องเล็ก ๆ เข้าไปด้วย นักธุรกิจจะตัดสินใจครั้งละ 70 ครั้งต่อวัน
* ปัญหาส่วนใหญ่ของคนเราจะเล็กลงหรือใหญ่ขึ้นนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถในการตัดสินใจ
* “ผล” ของงานหรือเรื่องส่วนตัวก็จะแตกต่างกันไปตามความสามารถในการตัดสินใจเช่นเดียวกัน
* การตัดสินใจแต่ละครั้งเป็นการสร้างชีวิตในอนาคตของตนเอง ประสบการณ์ก็คือการสั่งสม “การตัดสินใจ”
* ในยุคที่มีข้อมูลมากเกินไปและตัวเลือกจำนวนมาก ถ้าสามารถตัดสินใจให้เร็วขึ้นได้ก็จะทำให้ได้รับสิ่งตอบแทนที่มากยิ่งขึ้นกลับมา
* คนที่อยู่แนวหน้าในวงการธุรกิจจะไม่หลีกเลี่ยงความเสี่ยง แต่กลับเข้าไปผจญภัยในความเสี่ยงนั้น
* วิธีที่จะทำให้สามารถแบกรับความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสมและเพิ่มความรวดเร็วในการตัดสินใจคือการใช้ “เครื่องมือตัดสินใจ”
* เครื่องมือในการตัดสินใจมี 4 อย่าง คือ 1) Trade off (การเลือกหนึ่งในสองตัวเลือก) 2) แผนภูมิต้นไม้ 3) การคัดกรอง และ 4) ทฤษฎีเกม
* การตัดสินใจขั้นพื้นฐานที่สุดคือการเปรียบเทียบ สิ่งสำคัญคือการทำตามจุดประสงค์ กำหนดประเด็นและสิ่งที่จะนำมาเปรียบเทียบ ซึ่งควรมีเพียง 4 อย่างนี้คือ 1) ลำดับเวลา 2) มาตรฐาน 3) คนอื่น (บริษัทอื่น) 4) ความแตกต่างกับอุดมคติ
* สิ่งสำคัญคือ “จะทิ้งอะไร” มากกว่า “จะเหลืออะไรไว้” เช่น “ความกล้าที่จะตัดสินใจทิ้ง (บริการที่ไม่จำเป็นออกไป)” ทำให้สายการบินต้นทุนต่ำทั้งหลายประสบความสำเร็จ
* ถ้ามีเพียง 2 ตัวเลือก วิธีตัดสินใจที่ง่ายที่สุดคือ Trade Off ซึ่งจะดูว่าถ้าเลือก A จะได้อะไร จะเสียอะไร และถ้าเลือก B จะได้อะไร เสียอะไร
* ถ้ามีมากกว่า 2 ตัวเลือก สามารถใช้ “แผนภูมิต้นไม้” ซึ่งเป็นการตั้งปรากฏการณ์หรือปัญหาเป็นแกนหลัก แล้วค่อย ๆ เจาะลึกลงไปในปัญหานั้นเพื่อขยายกิ่งก้านลงมาข้างล่าง (หน้าตาคล้าย Mind Map – ผู้วิจารณ์)
* เมื่อลองเอาเรื่องปกติธรรมดาในชีวิตประจำวัน เช่น จะเดินทางไปต่างประเทศกับใคร กี่คน พักที่ไหน ทานข้าวที่ไหน มาทำเป็นแผนภูมิต้นไม้ ก็จะเห็นภาพโดยรวม และเห็นว่าจุดไหนเป็นจุดสำคัญในการตัดสินใจ เมื่อทราบแล้วจะช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและเลือกได้อย่างมั่นใจขึ้นในครั้งต่อ ๆ ไป
* ตัวอย่างการนำแผนภูมิต้นไม้มาใช้ในการตัดสินใจส่วนตัวคือ การเลือกว่าจะซื้อของขวัญวันเกิดอะไรให้แฟนดี ก็เอาคำว่า “ของขวัญ” เป็นตัวตั้ง แล้วแตกออกไป 3 แขนงเป็น 1) เซอร์ไพรส์ 2) เน้นการใช้งานจริง และ 3) เน้นต้นทุน (ราคา)
หลังจากนั้นก็สามารถแยกย่อยลงไปในแต่ละหมวดได้อีก เช่น ในหมวดเซอร์ไพรส์ก็อาจใช้วิธีถามเพื่อนแฟนล่วงหน้าหรือแอบสังเกตดูสิ่งที่แฟนโพสต์ในโซเชียล มีเดีย เป็ฯต้น
* เมื่อทีมฟุตบอล Albirex Niigata ซึ่งเป็นทีมฟุตบอลอาชีพญี่ปุ่นที่เล่นอยู่ในลีกที่สิงคโปร์มีปัญหาไม่ค่อยมีแฟนบอลคอยตามเชียร์และขาดทุน ผู้บริหารได้ตัดสินใจแก้ปัญหาโดยการเพิ่มยอดขายผ่านทาง 1) การตั้งโรงเรียนฟุตบอลที่ให้นักฟุตบอลเป็นผู้สอนเด็ก ๆ 2) การเปิดโรงเรียนเชียร์ลีดเดอร์ 3) การตั้งคาสิโนคลับในสโมสร และ 4) การเปิดห้องอาหารที่สโมสรให้คนทั่วไปเข้ามาใช้บริการได้
* การตัดสินใจโดยการใช้วิธีคัดกรองทำให้บริษัท Asahi Shuzo ผู้ผลิตสาเกรายย่อยได้กลายมาเป็นเจ้าตลาดสาเกเย็นระดับพรีเมี่ยมได้ โดยได้ตัดสินใจยกเลิกการผลิตสาเกประเภทอื่น ๆ ของบริษัทไปและเน้นทรัพยากรไปที่การผลิต Dassai สาเกพรีเมี่ยมเพียงอย่างเดียวแทน
* ยิ่งคัดกรองความรู้ความชำนาญเฉพาะทางได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งเห็นผล เช่น หลังจากช่างภาพสาวชาวญี่ปุ่นชื่อ นากิ โยชิดะ พยายามถ่ายภาพชนเผ่าเปลือยในแอฟริกามานานแต่ไม่ได้รอยยิ้มอย่างธรรมชาติของพวกเขาเสียที เธอก็ตัดสินใจ “ถอดเสื้อ” และให้ชนเผ่าเปลือยมาเขียนหน้าแบบเผ่าตนเองให้ ทำให้เธอได้ใจของพวกเขามาเต็ม ๆ และได้ภาพที่ธรรมชาติที่สุดที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน
* ด้วยประชากรวัยเรียนที่น้อยลงไปเรื่อย ๆ ในญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยต่าง ๆ จึงต้องแข่งขันกันในการแย่งนักศึกษา มหาวิทยาลัยคินกิ ในจังหวัดโอซาก้าได้ตัดสินใจเน้นทรัพยากรการบริหารไปที่ “การเพิ่มภาพลักษณ์ของนักศึกษาหญิง” อย่างสอดคล้องกันทั้งมหาวิทยาลัย ทำให้กลายเป็นมหาวิทยาลัยที่มีผู้ยื่นใบสมัครมากที่สุดในญี่ปุ่น
* คนเก่งจะให้ความสำคัญกับ “กำไรในระดับหนึ่ง” มากกว่า “กำไรมากที่สุด”
* การตัดสินใจด้วยทฤษฎีเกมให้ได้ผลต้องอาศัยการ “เดาใจ” คู่แข่งให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะได้มาจากการหมั่นสะสมคลังข้อมูลอย่างสม่ำเสมอให้ได้มากที่สุดนั่นเอง
* การย้อนกลับไปศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ใหม่จะช่วยลับคมในการตัดสินใจ การท่องจำไม่ใช่สิ่งจำเป็น แต่ให้ศึกษาว่าทำไมสิ่งนั้นจึงเกิดขึ้น และถัดไปควรทำอะไร
* การหมั่นสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันแล้วหา “เหตุ” ของสิ่งนั้น ๆ จะช่วยลับคมในการตัดสินใจได้เช่นกัน เช่น ในตอนเย็นถ้ารู้สึกว่า “วันนี้เป็นวันที่ดี” ให้ลองแยกแยะว่า “ทำไมถึงดี” เช่น อาหารกลางวันอร่อย หรือ หัวหน้าชมผลงาน หรือ ทำงานเสร็จเร็ว
ถ้าทำเช่นนี้ได้เป็นประจำทุกวัน จะทำให้สามารถจับเทคนิคในการเพิ่มคุณภาพชีวิตของตนเองได้
* การไปเที่ยวในที่ที่ไม่รู้จักมาก่อนตามลำพังเป็นวิธีการฝึกการตัดสินใจที่ดีเยี่ยมอย่างหนึ่งเพราะต้องตัดสินใจอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา
* ถึงแม้ในยุคอินเทอร์เน็ตจะสามารถหาข่าวสารต่าง ๆ ได้มากมายฟรี ๆ แต่การใช้เงินลงทุนไปกับข้อมูลที่มีค่าจริง ๆ และครอบคลุมรอบด้าน (เช่น หนังสือพิมพ์ดี ๆ หรือหนังสือดี ๆ) เป็นเรื่องสำคัญที่ควรทำเพื่อพัฒนาตนเองให้ก้าวหน้า เพราะการมีข้อมูลที่มีคุณค่ามากกว่าใครนั้นจะช่วยในการตัดสินใจเป็นอย่างมาก
* “จิตใจ” สามารถฝึกฝนได้ด้วยการเพิ่มคุณภาพในการตัดสินใจ การนำทักษะการตัดสินใจทันทีมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันจะทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด และจะช่วยให้คุณสามารถเป็นคนที่คุณอยากเป็นได้
* “ต้องแตกต่างจากคนอื่นอยู่เสมอ เพื่อที่จะเป็นคนที่ไม่มีใครมาทดแทนได้” -- โคโค่ ชาแนล
* “โอกาสนั้นเก็บสะสมไม่ได้” -- เฮนรี่ อัลเฟรด คิสซิงเจอร์ (ดังนั้นเมื่อมีโอกาสจึงต้องรีบตัดสินใจทันที)
* “มนุษย์เรานั้นเปลี่ยนแปลงไปตามนิสัยที่ทำเป็นประจำนั่นเองหรือ!” – วิลเลียม เชกสเปียร์ จาก สองสุภาพบุรุษแห่งเวโรนา
หนังสือชื่อ “ยิ่งเสี่ยง ยิ่งไม่พลาด” โดย นาโอกิ โคะเซกิ แปลโดย วิลาสินี รัตนเรืองไร ยามากุจิ สำนักพิมพ์ Free Mind พิมพ์ครั้งที่ 1 มีนาคม 2559 208 หน้า ราคา 235 บาท มีจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำและเวบไซต์ร้านหนังสือทั่วไป
------------------------------------------------------------------
เกร็ดน่ารู้:
------------------------------------------------------------------
เกร็ดน่ารู้:
* เด็กเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
* คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
* แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติ โดยผู้วิจารณ์เลือกอ่านเองโดยอิสระไม่ได้รับจ้างสำนักพิมพ์ใดมาเขียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น