การพูดแบบไหนเหมาะกับคุณ?
=ภาพรวม=
หนังสือเล่มนี้เขียนโดย Chris Anderson ประธานของ TED ผู้ที่มีส่วนทำให้ TED Talks ซึ่งเป็นกิจกรรมการพูดแก่ผู้ฟังจำนวนหนึ่งสด ๆ (public speaking) เป็นที่รู้จักกันในระดับโลกผ่านทางยูทูป
ในเล่มผู้เขียนมอบ “กล่องเครื่องมือ” สำหรับเตรียมตัวในการขึ้นพูดในสไตล์ TED ไม่ว่าจะที่ใดก็ตาม ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้กับการพูดในการนำเสนอผลงานในที่ทำงาน หรือการพูดทั่วไปได้ด้วย
เนื้อหาในเล่มมี 6 ส่วน คือ 1) คำนำ 2) พื้นฐานการพูดในที่ชุมชน 3) เครื่องมือในการพูด 4) ขั้นตอนการเตรียมตัว 5) เมื่ออยู่บนเวที และ 6) ทบทวนความสำคัญของการพูดในที่ชุมชน
รีวิวนี้เป็นเนื้อหาจากภาค 3 ของเล่ม คือ เครื่องมือในการพูด (Talk Tools)
ผู้เขียนนำเสนอวิธีการพูดไว้ 5 แบบ คือ
1) การสร้างความเชื่อมโยงกับผู้ฟัง (connection)
2) การเล่าเรื่อง (narration)
3) การอธิบาย (explanation)
4) การจูงใจ (persuasion) และ
5) การนำเสนอเรื่องแปลกใหม่ หรือการเปิดเผยเรื่องที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน (revelation)
2) การเล่าเรื่อง (narration)
3) การอธิบาย (explanation)
4) การจูงใจ (persuasion) และ
5) การนำเสนอเรื่องแปลกใหม่ หรือการเปิดเผยเรื่องที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน (revelation)
ตอนที่แล้วเราพูดเรื่อง “การสร้างความเชื่อมโยงกับผู้ฟัง (connection)” กันไปแล้ว วันนี้เราจะมาดูวิธีพูดอีก 4 แบบที่เหลือ
=น่าสนใจจากในเล่ม=
* การพูดที่ยอดเยี่ยมของ TED หลายครั้งเป็นการพูดสไตล์เล่าเรื่อง (narration) เพราะสมองคนสามารถรับข้อมูลข่าวสารในลักษณะเรื่องเล่าได้ง่ายกว่าแบบอื่น ๆ
* เรื่องเล่าที่คนชอบมักมีลักษณะดังนี้ คือ ตัวเอกที่มีเป้าหมายในชีวิตต้องพบกับอุปสรรคที่คาดไม่ถึงซึ่งตามมาด้วยสถานการณ์ขั้นวิกฤติ จากนั้นตัวเอกพยายามเอาชนะอุปสรรคนั้น นำไปสู่จุด climax ของเรื่อง และตามมาด้วยตอนจบที่ตอบโจทย์ของพล็อทเรื่องนั้น ๆ
* หัวใจ 4 ประการของการเล่าเรื่องคือ
1) ใช้ตัวละครที่ผู้ฟังสามารถมีความรู้สึกร่วมได้
2) กระตุ้นให้ผู้ฟังเกิดความอยากรู้ อยากฟังต่อ ตื่นเต้น
3) ใส่รายละเอียดให้พอเหมาะ ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป
4) จบสวยด้วยการแก้ปัญหาที่ให้ความรู้สึกพึงพอใจกับผู้ฟัง
1) ใช้ตัวละครที่ผู้ฟังสามารถมีความรู้สึกร่วมได้
2) กระตุ้นให้ผู้ฟังเกิดความอยากรู้ อยากฟังต่อ ตื่นเต้น
3) ใส่รายละเอียดให้พอเหมาะ ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป
4) จบสวยด้วยการแก้ปัญหาที่ให้ความรู้สึกพึงพอใจกับผู้ฟัง
* พึงจำไว้เสมอว่าเป้าหมายของการพูดคือ การ “มอบบางสิ่งบางอย่างให้กับผู้ฟัง” ไม่ใช่เล่าเรื่องเพื่อยกอัตตาตัวตนของตนเอง
* จงมอบสิ่งที่ผู้ฟังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ หรือมอบมุมมองใหม่ ๆ มอบความหวังให้ผู้ฟัง
* ตัวอย่างการพูด TED Talk ที่ใช้เรื่องเล่าได้อย่างสร้างสรรค์และตลกด้วยในเวลาเดียวกันที่ผู้เขียนแนะนำให้ไปลองฟังคือการพูดของ Sir Ken Robinson เรื่องความสำคัญของความคิดสร้างสรรค์ในเด็ก ๆhttps://www.youtube.com/watch?v=iG9CE55wbtY
* นิทานเปรียบเทียบอุปมาอุปไมยเชิงสอนใจ (parable) ก็เป็นเรื่องเล่าที่ดีชนิดหนึ่ง
* แต่ก่อนที่จะใช้นิทานแนวอุปมาอุปไมย ผู้พูดจำเป็นต้องรู้จักผู้ฟังให้ดีเสียก่อน นิทานแนวนี้บางเรื่องอาจเหมาะกับผู้ฟังที่มีพื้นฐานความรู้ในเรื่องที่ผู้พูดมาก่อนแล้วเท่านั้น เช่น ความรู้เฉพาะทาง
* สำหรับการพูดแนวอธิบาย (explanation) ผู้เขียนแนะนำให้ฟังการพูดของ แดน กิลเบิร์ต นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผู้สามารถอธิบายเรื่องยาก ๆ เกี่ยวกับสมองได้อย่างน่าสนใจในการพูดเรื่อง “The Surprising Science of Happiness”
* การพูดแบบจูงใจ (persuasion) คล้ายกับการพูดอธิบาย แต่ยากกว่าตรงที่ต้อง “ทำลายความเชื่อเดิม ๆ” ของผู้ฟังก่อน
* สำหรับการพูดแนวจูงใจ ผู้เขียนแนะนำให้ฟัง
Barry Schawarts เรื่อง The Paradox of Choicehttps://www.youtube.com/watch?v=VO6XEQIsCoM
และ
Elizabeth Gilbert เรื่อง Your Elusive Creative Genius https://www.youtube.com/watch?v=86x-u-tz0MA
* เคล็ดลับที่จะช่วยให้การพูดแนวจูงใจได้ผลดี คือ
1) ใช้อารมณ์ขันตั้งแต่ต้น
2) แทรกเกร็ดที่น่าสนใจ
3) ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ
4) อ้างบุคคลที่สามที่เชื่อถือได้
5) ใช้ภาพประกอบที่มีพลัง
2) แทรกเกร็ดที่น่าสนใจ
3) ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ
4) อ้างบุคคลที่สามที่เชื่อถือได้
5) ใช้ภาพประกอบที่มีพลัง
* การนำเสนอเรื่องแปลกใหม่ หรือการเปิดเผยเรื่องที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน (revelation) อาจทำได้ง่าย ๆ โดยใช้ภาพเล่าเรื่อง หรือใช้การสาธิต
* ผู้เขียนกล่าวว่า การนำเสนอเรื่องแปลกใหม่ หรือ การเปิดเผยเรื่องที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนนี้เปรียบได้กับการที่ศิลปินเดินนำคณะผู้ชมไปชมงานศิลปะชิ้นต่าง ๆ ของเขาในงานแสดงศิลปะทีละชิ้น
* การ “เดินนำ” ผู้ฟังนี้ไม่ใช่เพียงสักแต่ว่าเป็นการพาพวกเขาเดินจากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่ง แต่ต้องวางแผนการเดินให้เป็นเส้นทางที่น่าสนใจ น่าติดตาม น่าเพลิดเพลินด้วย
* ในการพูดสไตล์สาธิตอะไรใหม่ ๆ ให้ผู้ฟังได้รับชมไปด้วยนั้น ถ้าจะให้ได้ผลดีควรใช้โครงสร้างดังนี้
1) การยั่วให้เกิดความสนใจในตอนแรก
2) การเล่าที่มาที่ไป เช่น ที่มาของการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์นั้น ๆ
3) การสาธิต ที่ยิ่งเห็นได้ชัดและน่าตื่นเต้นเร้าใจได้มากเท่าไหร่ยิ่งดี
4) การเล่าผลที่ตามมาหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้านำสิ่งที่สาธิตนี้ไปใช้
2) การเล่าที่มาที่ไป เช่น ที่มาของการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์นั้น ๆ
3) การสาธิต ที่ยิ่งเห็นได้ชัดและน่าตื่นเต้นเร้าใจได้มากเท่าไหร่ยิ่งดี
4) การเล่าผลที่ตามมาหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้านำสิ่งที่สาธิตนี้ไปใช้
* การแชร์ความฝันของผู้พูดก็จัดว่าเป็นการพูดแบบการนำเสนอเรื่องแปลกใหม่
* เคล็ดลับของการพูดแบบแชร์ความฝันคือการวาดภาพอนาคตอีกแบบที่เราต้องการ และวาดภาพนั้นต้องทำให้ผู้ฟังรู้สึกต้องการอนาคตอย่างนั้นเหมือนเราด้วย โดยสุนทรพจน์แนวแชร์ความฝันที่ยอดเยี่ยมตลอดกาลที่ผู้เขียนแนะนำให้ฟังคือสุนทรพจน์ของ
1) ดร.มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ชื่อ “I have a dream” (เวอร์ชั่นย่อ) https://www.youtube.com/watch?v=3vDWWy4CMhE
2) ประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคเนดี้ ชื่อ “We choose to go to the moon” (เวอร์ชั่นย่อ ประโยคตัวอย่างในหนังสือเริ่มจากนาทีที่ 1:33)
https://www.youtube.com/watch?v=g25G1M4EXrQ
https://www.youtube.com/watch?v=g25G1M4EXrQ
* นอกจากการพูดทั้ง 5 สไตล์ที่ได้กล่าวมาในรีวิวตอนนี้และตอนที่แล้ว ผู้เขียนยังแนะนำให้ทดลองผสมผสานแนวการพูดมากกว่า 1 สไตล์ไว้ในการพูดครั้งเดียวกันด้วย
* ตัวอย่างการพูดแนวผสมผสานที่ผู้เขียนแนะนำให้ฟังคือการพูดของ ดร.เอมี่ คัดดี้ เรื่อง "ภาษาของร่างกายส่งผลต่อความมั่นใจของเราอย่างไร" ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการพูดแนวอธิบายและการเล่าเรื่องส่วนตัวhttps://www.youtube.com/watch?v=Ks-_Mh1QhMc
* โปรดติดตามรีวิวตอนต่อไป ในหัวข้อ “การเตรียมตัวขึ้นพูด”
หนังสือชื่อ “TED Talks: The Official TED Guide to Public Speaking” โดย Chris Anderson สำนักพิมพ์ Houghton Mifflin Harcourt 2016 269 หน้า ราคา 696 บาท มีจำหน่ายที่ร้านหนังสือต่างประเทศชั้นนำและเวบไซต์ร้านหนังสือต่างประเทศทั่วไป
-------------------------
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” มีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติ โดยผู้วิจารณ์เลือกอ่านเองโดยอิสระไม่ได้รับจ้างสำนักพิมพ์ใดมาเขียน
-------------------------
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” มีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติ โดยผู้วิจารณ์เลือกอ่านเองโดยอิสระไม่ได้รับจ้างสำนักพิมพ์ใดมาเขียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น