คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 197 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “สุดป่วน ก๊วนกระเป๋าตุง ตอน ขุมทรัพย์ตลาดหุ้น” ค่ะ
=ภาพรวม=
หนังสือการ์ตูนซีรี่ส์จากเกาหลีสีสันสวยสดเล่มนี้ ดูเหมือนจะเขียนให้เด็กประถมปลายหรือมัธยมต้นอ่านก็จริง แต่ในส่วนบทความท้ายบทเกี่ยวกับหลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นโดยเฉพาะเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นนั้นมีเนื้อหาระดับผู้ใหญ่ทีเดียวค่ะ
แต่กระนั้นก็ดี ต้องชมผู้เขียนที่สามารถนำเรื่องราวเนื้อหาใกล้ตัวเด็กมาเทียบเคียงกับการลงทุนซื้อหุ้นได้ทุกบท อ่านง่าย เข้าใจง่าย แม้แต่ผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ก็จะได้ประโยชน์มากมายค่ะ
ถึงแม้ท่านยังไม่ได้คิดจะให้ลูกหลานหัดลงทุนในตลาดหุ้น แต่อย่างน้อยหนังสือเล่มนี้จะสามารถสอนให้พวกเขารู้คุณค่าของเงินยิ่งๆขึ้นค่ะ
=น่าสนใจจากในเล่ม=
* ดช.เทีย รอเบิร์ต วัย 5 ขวบ ชาวอังกฤษ เคยเป็นผู้ได้กำไรมากที่สุดในการเล่นหุ้นจำลองแข่งกับนักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านหุ้น (และยังจำที่ผู้วิจารณ์เคยรีวิวอีกเล่มได้ไหมคะว่า ดช.วอร์เรน บัฟเฟตต์นั้นเริ่มศึกษาเรื่องหุ้นตั้งแต่อายุเพียง 8 ขวบ และเริ่มเล่นจริงครั้งแรกเมื่อายุ 11 ปีเท่านั้น!)
* แม้การไม่รู้หนังสือทำให้ต้องอยู่อย่างลำบาก แต่การไม่รู้เรื่องเงินจะทำให้ดำเนินชีวิตได้อย่างลำบากกว่า
* หากเรานำเงินส่วนเกินจากการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมาลงทุน เงินก้อนนั้นจะทำงานแทนเราและให้ผลตอบแทนกลับมาในรูปกำไรหรือเงินปันผล แต่ก็มีโอกาสขาดทุนได้ ดังนั้นจึงควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการเล่นหุ้นทุกครั้ง
* จริง ๆ แล้วหุ้นก็เปรียบได้กับลูกเจี๊ยบ ตอนแรกซื้อมาถูก พอเราเลี้ยงดูจนเติบโต มันก็จะให้เงินปันผลตอบแทนกับเราเหมือนกับไก่ที่ออกไข่นั่นเอง ส่วนตัวหุ้น(ไก่)นั้นเรายังสามารถขายเพื่อทำกำไรได้อีกด้วย
* ปีเตอร์ ลินช์ นักเล่นหุ้นชั้นเซียนกล่าวว่าคนที่จะเล่นหุ้นได้สำเร็จจะมีลักษณะเฉพาะ ได้แก่ 1) เชื่อมั่นในตัวเอง 2) สามารถวิเคราะห์ได้อย่างแตกฉาน 3) เยือกเย็นไม่หวั่นไหว 4) มีน้ำอดน้ำทน และ 5) อ่อนน้อมถ่อมตน
* ความโลภคือหนทางสู่ความล้มเหลว โดยเฉพาะเรื่องการลงทุน เมื่อความโลภบังตา ความรอบคอบในการวิเคราะห์จะถูกทำลายไป ดังนั้นจึงต้องรู้จักควบคุมความโลภให้ได้ถ้าอยากลงทุนสำเร็จ
* ควรแยกแยะข้อมูลข่าวสารที่ได้รับด้วยว่า น่าเชื่อถือมากแค่ไหน ไม่ควรหลงเชื่อโฆษณามากจนเกินไป
* วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะเลือกลงทุนกับบริษัทที่ตนรู้จักดีและตัวเองยอมรับ(เช่น มีคุณธรรม) เท่านั้น ถึงแม้เขาจะเป็นเพื่อนสนิทกับบิล เกตส์แต่เขาก็ไม่ได้ซื้อหุ้นไมโครซอฟท์เพราะเขาไม่รู้จักธุรกิจคอมพิวเตอร์ดีพอ
* ควรหัดสังเกตว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงตลาดทุนอย่างไร และมีอิทธิพลต่อใครบ้าง เช่น ถ้าราคาน้ำมันขึ้น คนที่ลงทุนเก่งจะลดการลงทุนกับบริษัทสายการบินและไปลงทุนกับบริษัทกลั่นน้ำมันแทน
* การลงทุนควรกระจายความเสียงด้วยการแบ่งเงินลงไปในสินทรัพย์หลายชนิดหรือกองทุนรวมต่างประเภทกัน นอกจากเลือกบริษัทต่าง ๆ แล้วก็ควรกระจายการลงทุนตามเวลาด้วย
* นักเล่นหุ้นอย่างแฮร์รี่ มาร์โควิตซ์ วิลเลียม ชาร์ป และโรเบิร์ต เมอร์ตัน เคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์เพราะพวกเขาบุกเบิกทฤษฎีใหม่ๆให้แก่วงการตลาดทุน
* นอกจากอ่านหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจแล้วควรอ่านหนังสือพิมพ์รายวันอย่างรอบคอบด้วย เพราะหุ้นง่ายต่อการเปลี่ยนแปลงเมื่อได้รับอิทธิพลจากหลายสิ่ง เช่น การเมือง สังคม และ วัฒนธรรม
* ข้อแนะนำสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ 1) เล่นหุ้นจำลองอย่างน้อย 6 เดือน 2) มีกฎและเป้าหมายเฉพาะตัว 3) อย่าเชื่อง่าย ๆ แม้เป็นคำพูดของผู้เชี่ยวชาญ 4) คิดเรื่องหุ้นเสมอเวลาที่รับข่าวสารทั่วไป 5) ลงทุนโดยใช้เงินทุนส่วนเกิน 6) ลงทุนระยะยาว และ 7) ลงทุนแบบกระจาย
หนังสือชื่อ “สุดป่วน ก๊วนกระเป๋าตุง ตอน ขุมทรัพย์ตลาดหุ้น” เขียนโดย Lee, Bong-gi ภาพโดย Papyrus แปลโดย อภิศรี นิรุตติปัญญากุล การ์ตูนความรู้นานมีบุ๊คส์ กันยายน 2553 176 หน้า ราคา 148 บาท
——————————————————————
เกร็ดน่ารู้:
* เด็กสิงคโปร์และเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
* คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
* แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
(ที่มา: http://goo.gl/qH2arZ และ http://goo.gl/2Ue7S3)
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติค่ะ
มาช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการมอบหนังสือเป็นของขวัญในทุกโอกาสนะคะ
——————————————————————-
ขอเชิญติดตามหนังสือ “สุดป่วน ก๊วนกระเป๋าตุง ตอน ขุมทรัพย์ตลาดหุ้น” ได้ที่ https://goo.gl/ava9TI
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น