วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ทราบไหมคะว่าเด็ก ๆ ในหลายประเทศเรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุนกันแล้ว?


คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 197 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “สุดป่วน ก๊วนกระเป๋าตุง ตอน ขุมทรัพย์ตลาดหุ้น” ค่ะ



=ภาพรวม=
หนังสือการ์ตูนซีรี่ส์จากเกาหลีสีสันสวยสดเล่มนี้ ดูเหมือนจะเขียนให้เด็กประถมปลายหรือมัธยมต้นอ่านก็จริง แต่ในส่วนบทความท้ายบทเกี่ยวกับหลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นโดยเฉพาะเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นนั้นมีเนื้อหาระดับผู้ใหญ่ทีเดียวค่ะ
แต่กระนั้นก็ดี ต้องชมผู้เขียนที่สามารถนำเรื่องราวเนื้อหาใกล้ตัวเด็กมาเทียบเคียงกับการลงทุนซื้อหุ้นได้ทุกบท อ่านง่าย เข้าใจง่าย แม้แต่ผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ก็จะได้ประโยชน์มากมายค่ะ
ถึงแม้ท่านยังไม่ได้คิดจะให้ลูกหลานหัดลงทุนในตลาดหุ้น แต่อย่างน้อยหนังสือเล่มนี้จะสามารถสอนให้พวกเขารู้คุณค่าของเงินยิ่งๆขึ้นค่ะ
=น่าสนใจจากในเล่ม=
*  ดช.เทีย รอเบิร์ต วัย 5 ขวบ ชาวอังกฤษ เคยเป็นผู้ได้กำไรมากที่สุดในการเล่นหุ้นจำลองแข่งกับนักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านหุ้น (และยังจำที่ผู้วิจารณ์เคยรีวิวอีกเล่มได้ไหมคะว่า ดช.วอร์เรน บัฟเฟตต์นั้นเริ่มศึกษาเรื่องหุ้นตั้งแต่อายุเพียง 8 ขวบ และเริ่มเล่นจริงครั้งแรกเมื่อายุ 11 ปีเท่านั้น!)
*  แม้การไม่รู้หนังสือทำให้ต้องอยู่อย่างลำบาก แต่การไม่รู้เรื่องเงินจะทำให้ดำเนินชีวิตได้อย่างลำบากกว่า
*  หากเรานำเงินส่วนเกินจากการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมาลงทุน เงินก้อนนั้นจะทำงานแทนเราและให้ผลตอบแทนกลับมาในรูปกำไรหรือเงินปันผล แต่ก็มีโอกาสขาดทุนได้  ดังนั้นจึงควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการเล่นหุ้นทุกครั้ง
*  จริง ๆ แล้วหุ้นก็เปรียบได้กับลูกเจี๊ยบ ตอนแรกซื้อมาถูก พอเราเลี้ยงดูจนเติบโต มันก็จะให้เงินปันผลตอบแทนกับเราเหมือนกับไก่ที่ออกไข่นั่นเอง ส่วนตัวหุ้น(ไก่)นั้นเรายังสามารถขายเพื่อทำกำไรได้อีกด้วย
*  ปีเตอร์ ลินช์ นักเล่นหุ้นชั้นเซียนกล่าวว่าคนที่จะเล่นหุ้นได้สำเร็จจะมีลักษณะเฉพาะ ได้แก่  1) เชื่อมั่นในตัวเอง  2) สามารถวิเคราะห์ได้อย่างแตกฉาน  3) เยือกเย็นไม่หวั่นไหว  4) มีน้ำอดน้ำทน  และ  5) อ่อนน้อมถ่อมตน
*  ความโลภคือหนทางสู่ความล้มเหลว โดยเฉพาะเรื่องการลงทุน เมื่อความโลภบังตา ความรอบคอบในการวิเคราะห์จะถูกทำลายไป ดังนั้นจึงต้องรู้จักควบคุมความโลภให้ได้ถ้าอยากลงทุนสำเร็จ
*  ควรแยกแยะข้อมูลข่าวสารที่ได้รับด้วยว่า น่าเชื่อถือมากแค่ไหน  ไม่ควรหลงเชื่อโฆษณามากจนเกินไป
*  วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะเลือกลงทุนกับบริษัทที่ตนรู้จักดีและตัวเองยอมรับ(เช่น มีคุณธรรม) เท่านั้น  ถึงแม้เขาจะเป็นเพื่อนสนิทกับบิล เกตส์แต่เขาก็ไม่ได้ซื้อหุ้นไมโครซอฟท์เพราะเขาไม่รู้จักธุรกิจคอมพิวเตอร์ดีพอ
*  ควรหัดสังเกตว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงตลาดทุนอย่างไร และมีอิทธิพลต่อใครบ้าง  เช่น ถ้าราคาน้ำมันขึ้น  คนที่ลงทุนเก่งจะลดการลงทุนกับบริษัทสายการบินและไปลงทุนกับบริษัทกลั่นน้ำมันแทน
*  การลงทุนควรกระจายความเสียงด้วยการแบ่งเงินลงไปในสินทรัพย์หลายชนิดหรือกองทุนรวมต่างประเภทกัน  นอกจากเลือกบริษัทต่าง ๆ แล้วก็ควรกระจายการลงทุนตามเวลาด้วย
*  นักเล่นหุ้นอย่างแฮร์รี่ มาร์โควิตซ์  วิลเลียม ชาร์ป และโรเบิร์ต เมอร์ตัน เคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์เพราะพวกเขาบุกเบิกทฤษฎีใหม่ๆให้แก่วงการตลาดทุน
*  นอกจากอ่านหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจแล้วควรอ่านหนังสือพิมพ์รายวันอย่างรอบคอบด้วย เพราะหุ้นง่ายต่อการเปลี่ยนแปลงเมื่อได้รับอิทธิพลจากหลายสิ่ง เช่น การเมือง สังคม และ วัฒนธรรม
*  ข้อแนะนำสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่  1) เล่นหุ้นจำลองอย่างน้อย 6 เดือน  2) มีกฎและเป้าหมายเฉพาะตัว  3) อย่าเชื่อง่าย ๆ แม้เป็นคำพูดของผู้เชี่ยวชาญ  4) คิดเรื่องหุ้นเสมอเวลาที่รับข่าวสารทั่วไป  5) ลงทุนโดยใช้เงินทุนส่วนเกิน  6) ลงทุนระยะยาว  และ  7) ลงทุนแบบกระจาย
หนังสือชื่อ “สุดป่วน ก๊วนกระเป๋าตุง ตอน ขุมทรัพย์ตลาดหุ้น” เขียนโดย Lee, Bong-gi ภาพโดย Papyrus  แปลโดย อภิศรี นิรุตติปัญญากุล  การ์ตูนความรู้นานมีบุ๊คส์  กันยายน 2553  176 หน้า  ราคา 148 บาท
——————————————————————
เกร็ดน่ารู้:
*  เด็กสิงคโปร์และเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
*  คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
*  แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
(ที่มา: http://goo.gl/qH2arZ และ http://goo.gl/2Ue7S3)
คอลัมน์  “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติค่ะ
มาช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการมอบหนังสือเป็นของขวัญในทุกโอกาสนะคะ
——————————————————————-
ขอเชิญติดตามหนังสือ “สุดป่วน ก๊วนกระเป๋าตุง ตอน ขุมทรัพย์ตลาดหุ้น” ได้ที่ https://goo.gl/ava9TI

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น