วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

อยากทราบทักษะเอาตัวรอดกลางมหาสมุทรไหมคะ?


คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 167 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “เอาชีวิตรอดในมหาสมุทร”  ค่ะ



=ภาพรวม=
หนังสือการ์ตูนที่สลับเป็นระยะ ๆ ด้วยบทความสั้น ๆ ในหัวข้อที่เกี่ยวข้องพร้อมภาพถ่ายจริงเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้นี้เป็นหนึ่งในซีรี่ส์การ์ตูน “เอาชีวิตรอดใน…(สถานที่ต่าง ๆ)” จากประเทศเกาหลีค่ะ เล่มนี้เป็นเรื่องราวของ 2 พี่น้อง คือ ลีนา และ โตริ วัย ป.4-6 กับคุณพ่อ ที่เดินทางไปเกาะกวมเพื่อขึ้นเรือหวังจะท่องเที่ยวในทะเลลึก แต่จับพลัดจับผลูเรือเกิดอับปางลง 3 คนพ่อลูกต้องใช้ชีวิตอยู่ในแพกู้ชีพ ทักษะความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่จะช่วยให้ทั้ง 3 คนรอดมาได้งมีหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นน้ำทะเลให้เป็นน้ำจืด การหาอาหารทะเลรับประทาน การรักษาอุณหภูมิของร่างกาย การบรรเทาอาการเมาเรือ หรือว่าการเอาตัวรอดจากพายุไต้ฝุ่นค่ะ เป็นหนังสือที่มีประโยชน์ อ่านได้ทุกวัยตั้งแต่เด็กประถมจนถึงผู้ใหญ่ค่ะ
=น่าสนใจจากในเล่ม=
*  จุดที่ลึกที่สุดในทะเล คือ ร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา กลางมหาสมุทรแปซิฟิค ลึกถึง 11,034 เมตร ซึ่งมากกว่าความสูงของยอดเขาเอเวอเรสต์ถึง 2,186 ม.
*  ยิ่งใกล้เส้นศูนย์สูตร ดาวเหนือซึ่งเป็นดาวที่สว่างที่สุดของกลุ่มดาวหมีเล็กก็ยิ่งอยู่ต่ำลง ในอดีตนักเดินเรือชาวยุโรปเหนือก็ใช้หลักการนี้หาตำแหน่งตนเอง
*  เมื่อเกิดอุบัติเหตุตกทะเลหรือเรือล่ม และใส่เสื้อชูชีพอยู่ การว่ายท่าลูกหมาตกน้ำจะช่วยออมแรงได้ดีที่สุด
*  เด็กจะมีแนวโน้มที่จะเมาเรือมากกว่าผู้ใหญ่ ถ้าอยากบรรเทาอาการต้องไม่มองคลื่นข้างๆเรือ ให้มองท้องฟ้าหรือพื้นเรียบแทน ถ้าเมาเครื่องบินจุดที่ควรนั่งคือริมหน้าต่างบริเวณปีกเครื่องบิน และอย่าหันหน้าไปในทิศตรงข้ามกับทิศทางการเคลื่อนที่ของพาหนะ
*  ถ้าอากาศร้อนให้ระวังจะเสียเหงื่อมากและทำให้ร่างกายขาดน้ำ ให้ถอดเสื้อจุ่มน้ำทะเลแล้วนำมาใส่
*  เมื่อน้ำดื่มขาดแคลน เวลาดื่มต้องทำให้ปากและลิ้นเปียก อมน้ำไว้นิดหน่อย แล้วค่อยๆดื่ม
*  ในการทำน้ำทะเลให้ดื่มได้ ให้ตักน้ำทะเล 1 ใน 3 ของขวด แขวนให้แดดส่องจนเกลือตกผลึก แล้วสามารถใช้หลอดดูดน้ำจากด้านบนได้
*  ทะเลใกล้ฝั่งมีปลาบางชนิดกินไม่ได้ แต่ทะเลไกลฝั่งปลาทุกชนิดกินได้ ในเนื้อปลามีน้ำอยู่ด้วย
*  ปลามีพิษมักมีครีบสีแดงหรือสีม่วง และมีหนามแหลมยื่นออกมาตามครีบ เนื้อปลามีพิษมักมีกลิ่นแรง รสชาติแปลก และ เผ็ด  ควรหลีกเลี่ยงการกินกระเพาะ ลำไส้ และไข่ปลา
*  มีขยะกองโตเท่าเกาะอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิค คาดว่ามีปริมาณ 100 ล้านตัน ขยะจะไหลมาทับถมกันเรื่อยๆและไม่กระจายออกไปเนื่องจากอากาศร้อนทั้งปี ไม่มีลมพัด  กว่า 70% มาจากของเสียจากแม่น้ำในเมือง สิ่งมีชีวิตในทะเลมากกว่า 260 ชนิดได้รับผลกระทบจากขยะ ซึ่งส่วนใหญ่คือพลาสติค
*  ฉลามสามารถได้กลิ่นเลือดคนเพียง 1 หยดในน้ำ 1 ล้านหยด และได้กลิ่นเลือดไกลกว่า 400 เมตร ถ้ายิ่งกระทุ้งน้ำฉลามจะนึกว่าจู่โจมมันและจะพุ่งเข้ามาทำร้ายได้ ฉลามส่วนใหญ่ออกล่าเหยื่อเวลากลางวัน โดยเฉพาะตอนบ่าย  และมักโจมตีคนที่ไม่สวมเสื้อผ้าก่อนคนที่สวมเสื้อผ้า
*  สาหร่ายมีวิตามินและแร่ธาตุมาก มีทั้งสีเขียว สีน้ำตาล และสีแดง กินได้ทั้งหมด กินสดหรือตากแห้งก็ได้
*  ในวันที่อากาศดี การใช้กระจกส่งสัญญาณสะท้อนแสงจากดวงอาทิตย์เป็นวิธีขอความช่วยเหลือที่ดีที่สุด ถ้าหากไม่มีกระจก สามารถใช้ทองเหลือง หัวเข็มขัดเงิน ใบมีด ไปจนกระทั่งกระดาษห่อหมากฝรั่งได้ เคยมีนักบินคนหนึ่งเห็นสัญญาณที่อยู่ไกลออกไปถึง 16 กิโลเมตร
หนังสือชื่อ “เอาชีวิตรอดในมหาสมุทร” เขียนโดย Hong, Jaechol และ Jung, Joongyu แปลโดย ฤดี ภวสิริพร และ ศุภลักษณ์ อาศิรพจน์มนตรี สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่น พิมพ์ครั้งที่ 1  มีนาคม 2558  176 หน้า  ราคา 165 บาท
——————————————————————
เกร็ดน่ารู้:
*  เด็กสิงคโปร์และเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
*  คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
*  แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
คอลัมน์  “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติค่ะ
มาช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการมอบหนังสือเป็นของขวัญในทุกโอกาสนะคะ
——————————————————————-
ขอเชิญติดตามหนังสือ “เอาชีวิตรอดในมหาสมุทร” ได้ที่ https://goo.gl/ky4vLl

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น