คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 176 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “หนักเป็นเบา เมื่อเราไม่แบก” ค่ะ
=ภาพรวม=
หนังสือเล่มนี้รวมบทความของท่านว.วชิรเมธีจากต่างที่ต่างวาระไว้ด้วยกันค่ะ
ในเล่มแบ่งเป็น 7 บท โดยแต่ละบทจะมีบทความสั้นๆย่อยลงไปในประเด็นของบทนั้นๆอีกที ประกอบไปด้วย 1) จงคิดอย่างแยบคาย ใช้ชีวิตอย่างแยบยล เป็นคนอย่างยอดเยี่ยม 2) ทุกเรื่องที่คิด ทุกกิจที่ทำ ทุกคำที่พูด ทุกครั้งที่เคลื่อนไหว จงเติมความตั้งใจให้เต็มร้อย 3) อย่าแต่งงานกับคนที่ดูดี แต่จงแต่งงานกับคนดี 4) ความทุกข์เกิดขึ้นมาไม่ใช่เพื่อให้เราท้อ แต่เกิดขึ้นมาเพื่อให้เราก้าวต่อไปจนพบความสุข 5) ความเรียบง่ายเป็นพี่น้องกับความสุข 6) สรรพสิ่งคือของใช้ อย่าเข้าใจว่าเป็นของฉัน 7) โลกก็เหมือนสะพาน เราแค่เดินผ่านแล้วก็จากไป
=น่าสนใจจากในเล่ม=
* เจ.เค. โรว์ลิ่ง ผู้เขียนหนังสือ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในห้าของสตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเธอคือคนที่ “จนมากที่สุดคนหนึ่งในเกาะอังกฤษ” (คำพูดของเธอเอง) เธอผ่านวันเวลาอันมืดมิดนั้นได้ด้วยความเชื่อมั่นว่า “สิ่งดีๆยังจะต้องมีมา”
* บุคคลระดับโลกที่มี “ศิลปะในการเข้าไปนั่งอยู่ในใจคน” ล้วน 1) มองตนเป็นเพียงคนธรรมดาๆคนหนึ่ง 2) มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย 3) ใช้ชีวิตอย่างไม่เห็นแก่ตัว น้อมตนลงรับใช้คนอื่น 4) มีวาทศิลป์ที่เป็นเลิศ
* เคยมีคนไปกราบทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขอให้พระองค์ทรงงดการเสด็จฯ ไปพระราชทานปริญญาบัตรเพราะทรงพระชราภาพแล้วและต้องทรงตรากตรำ แต่ทรงปฏิเสธและตรัสว่าจะทรงเสด็จไปทำหน้าที่เช่นนี้จนกว่าจะทำไม่ไหว เพราะทรงสังเกตเห็นว่าบัณฑิตทั้งหลายมีความสุขที่ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์พระองค์ท่าน ดังนั้น ปรัชญาในการทรงงานของพระองค์ก็คือ “งานของเราคือการทำให้เขามีความสุข”
* เมื่อจิตรวมตัวจากการเจริญสมาธิ จะเกิดภาวะอย่างหนึ่ง คือ มุทุตา หรือ จิตนุ่มนวล จากนั้นก็จะ ลหุตา คือ เบาไปหมด ตามมาด้วย กัมมนียะ คือ ควรแก่การงาน หมายความว่า เอาจิตตัวนี้ไปคิดเรื่องใด ความคิดก็จะแล่นไปตลอดสาย คิดออก ไม่ติดขัด
* ผู้ที่ต้องการทำงานบริการให้ดีที่สุดจะต้องตอบคำถาม 3 ข้อนี้ให้ได้ คือ 1) ใคร คือคนที่สำคัญที่สุด 2) อะไร คืองานที่สำคัญที่สุด และ 3) เวลาใด คือเวลาที่สำคัญที่สุด
* คนที่สำคัญที่สุดคือ “คนที่อยู่ตรงหน้าเรา” คนเราโคจรกันมาพบกันชั่วคราวเท่านั้นในที่สุดก็ต้องจากกันไป เมื่อเราไปพบเจอใคร ควรสร้างความประทับใจที่ดีต่อกันเอาไว้ ดูแลโมงยามนั้นให้ดีที่สุด งดงามที่สุด
* งานที่สำคัญที่สุด คือ “งานที่เราทำอยู่ในขณะนี้” จงใส่จิตใส่ใจลงไปให้เต็มร้อย เหมือนเวลาที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรม ทุกครั้งไม่ว่าจะแสดงให้กับใครฟัง จะทรงแสดงอย่างเต็มศักยภาพ
* เวลาที่สำคัญที่สุด คือ “เวลานี้” หรือเวลาที่เรากำลังนั่งหายใจอยู่ในขณะนี้ เพราะเป็นเวลาเดียวที่เราสามารถบริหารจัดการชีวิตของเราได้ ถ้าเราทำปัจจุบันดี เมื่อเวลาผ่านไปมันก็จะกลายเป็นอดีตที่ดี และเมื่อเราสร้างเหตุในปัจจุบันดี อนาคตของเราก็จะดีไปด้วย
* ความทุกข์ทุกชนิดเมื่อเกิดขึ้นมาแล้วมันไม่แน่ มันไม่คงที่อยู่ตลอด สักวันมันก็จะต้องเปลี่ยนแปลงไป ให้คอยลองสังเกตดู
* ความสุขมี 3 ระดับ คือ 1) กามสุข สุขจากการบำรุงบำเรอประสาทสัมผัสทั้งหลาย คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ 2) นิรามิสสุข สุขที่เกิดจากการทำความดี ซึ่งสามารถทำให้ประณีตยิ่งๆขึ้นด้วยการเจริญสมาธิจนเกิดสภาวะปีติ และ
3) นิพพานสุข คือ สุขที่เกิดจากความสงบของกิเลส พัฒนาขึ้นได้ด้วยการเจริญสติ ทุกครั้งที่เราฝึกเจริญสติ ในขณะนั้นกิเลส คือ โลภ โกรธ หลง เข้าแทรกไม่ได้ เป็น “นิพพานชั่วคราว” มนุษย์ทุกคนควรพัฒนาตนเองให้ก้าวขึ้นไปถึงความสุขขั้นสูงสุดนี้ให้ได้
หนังสือชื่อ “หนักเป็นเบา เมื่อเราไม่แบก” โดย ว.วชิรเมธี สำนักพิมพ์สัปปายะ พับลิชชิ่ง จำกัด 2556 184 หน้า ราคา 100 บาท
——————————————————————
เกร็ดน่ารู้:
* เด็กสิงคโปร์และเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
* คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
* แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติค่ะ
มาช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการมอบหนังสือเป็นของขวัญในทุกโอกาสนะคะ
——————————————————————-
ขอเชิญท่านติดตามหนังสือ “หนักเป็นเบา เมื่อเราไม่แบก” ทั้งในแบบรูปเล่ม และ E-BOOK ได้ที่ https://goo.gl/KN6lPz
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น