คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 169 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “จีน: ทุกเรื่องที่จำเป็นต้องรู้” ค่ะ
=ภาพรวม=
หนังสือรวมเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจประกอบภาพถ่ายสีสวยสดทั้งเล่มนี้เป็นหนังสือจาก Lonely Planet ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกด้านคู่มือนำเที่ยวค่ะ
เรื่องราวที่เลือกมาเขียนเป็นหัวข้อที่น่าสนใจต่างๆเกี่ยวกับจีน หลายเรื่องหาอ่านไม่ได้ในคู่มือนำเที่ยวทั่วไป อีกทั้งยังแฝงไปด้วยอารมณ์ขัน อ่านได้ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ค่ะ
=น่าสนใจจากในเล่ม=
* จีนมีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลกถึง 1,300 ล้านคน ทุกๆวันมีเด็กเกิดใหม่ประมาณ 50,000 คน หรือ นาทีละ 35 คน เมื่อปี 1978 จีนออกนโยบายให้แต่ละครอบครัวมีลูกได้แค่หนึ่งคน
* เมื่อค.ศ.105 ขุนนางชื่อซื่อไช่หลุนได้ประดิษฐ์กระดาษสำหรับเขียนหนังสือขึ้นมาได้เป็นครั้งแรกก่อนชาวยุโรปจะคิดค้นได้ถึง1,000 ปี และในศตวรรษที่ 10 จีนก็ได้ออกธนบัตรฉบับแรกของโลก
* พระราชวังต้องห้ามสร้างขึ้นโดยแรงงานหนึ่งล้านคนเป็นเวลากว่า 4 ปี มีจำนวนอาคาร 800 หลังและห้องต่างๆ มากกว่า 9,000 ห้อง
* ตำนานของชามีถ้วยแรกอยู่ว่า เมื่อ 2,737 ปีก่อนคริสต์ศักราช จักรพรรดิเสินหนงได้เสด็จไปในแถบชนบท เมื่อข้าราชบริพารได้นำน้ำต้มมาถวายให้ทรงดื่ม ก็มีลมพัดใบไม้สองสามใบหล่นลงในถ้วย พระองค์ทอดพระเนตรน้ำในถ้วยเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแล้วจิบดูแล้วพอพระทัย
* นักประวัติศาสตร์ชื่อซางเจี๋ยได้ประดิษฐ์อักษรจีนขึ้นเมื่อราวๆ2,650 ปี ก่อนคริสต์ศักราช ปัจจุบันมีตัวอักษรจีนประมาณ 80,000 ตัว แต่มีหลายตัวที่ไม่ค่อยได้ใช้ ในปัจจุบันเด็กจีนอายุ 9 ปีจะต้องรู้ตัวอักษรจีนประมาณ 2,000 ตัว
* สองในสามของจักรยานทั่วโลกผลิตในจีน รวมทั้งจักรยาน 9 ใน10 คันที่ขายได้ในสหรัฐอเมริกาด้วย ร้อยละ 90 ของจักรยานไฟฟ้าในโลกขายได้ที่ประเทศจีน
* จีนคิดค้นการผลิตผ้าไหมขึ้นได้เป็นครั้งแรกเมื่อ 4,700 ปีมาแล้วและเก็บขั้นตอนการผลิตเป็นความลับจากชาวต่างชาติมาได้อีกหลายพันปี
* เล่ากันว่าในศตวรรษที่ 6 พระโพธิธรรม พระอินเดียผู้ก่อตั้งพุทธศาสนานิกายเซนได้สอนกระบวนท่าออกกำลังกายให้บรรดาพระในวัดเส้าหลินที่นั่งสมาธินานเกินไป เป็นที่มาของการฝึกวิทยายุทธเพื่อป้องกันตัว
* พระใหญ่แห่งเมืองเล่อซานในมณฑลเสฉวน มีองค์พระที่สูงถึง 71 เมตร นับเป็นพระพุทธรูปหินองค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เริ่มแกะสลักเมื่อค.ศ. 716 ใช้เวลาแกะสลักทั้งหมดถึง 90 ปี
* จีนผลิตของเล่นร้อยละ 90 จากของเล่นทั้งหมดทั่วโลก
* สันนิษฐานว่ามีการเก็บเกี่ยวข้าวป่าเป็นครั้งแรกในจีนเมื่อ11,000 ปีมาแล้ว และมีการทำนาข้าวครั้งแรกในจีนประมาณ 7,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช ชาวจีนมักทักทายกันว่า “กินข้าวหรือยัง?”
* ในปีค.ศ.1932 เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองใหญ่ที่สุดอันดับห้าของโลก และเป็นที่อยู่ของชาวต่างชาติจากอังกฤษ ฝรั่งเศส อเมริกา รัสเซีย ฯลฯ ถึง 70,000 คน
* จิ๋นซีฮ่องเต้เริ่มสร้างสุสานของตนเองตั้งแต่เริ่มขึ้นเป็นจักรพรรดิเมื่อค.ศ. 246 ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 36 ปีด้วยแรงงานกว่า 700,000 คน สุสานนี้มีการค้นพบในค.ศ.1974 โดยชาวนาที่กำลังขุดหาตาน้ำ ปัจจุบันยังขุดค้นไม่เสร็จสิ้น ยังไปไม่ถึงส่วนที่เป็นพระราชวังใต้ดินด้วยซ้ำ
* ชาวจีนคิดค้นแม่เหล็กเพื่อใช้ในการเดินเรือขึ้นมาได้ครั้งแรกในศตวรรษที่11 และเมื่อต้นทศวรรษที่ 1400 นั้นจีนมีกองเรือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อออกเดินทางครั้งแรกโดยการนำของแม่ทัพเจิ้งเหอมีเรือ 317 ลำ ลูกเรือ 27,000 คน มีหมอ นักธรรมชาติวิทยา และนักดาราศาสตร์ร่วมเดินทางไปด้วย
* กองเรือของแม่ทัพเจิ้งเหอเดินทางทั้งหมด 7 ครั้ง เดินทางไปไกลถึงอินเดีย อาหรับ และแอฟริกา
* โรงเรียนกายกรรมของจีนรับแต่เด็กอายุต่ำกว่าแปดขวบเข้าเรียนและต้องฝึกติดต่อกันอย่างน้อยสิบปี
* มาร์โค โปโล ลูกชายพ่อค้าชาวเวนิส อิตาลี ออกเดินทางไปค้าขายที่เมืองจีนพร้อมกับบิดาเมื่ออายุเพียง 17 ปี ในปีค.ศ.1271 ใช้เวลาเดินทางถึง 4 ปี ทันได้พบกุบไลข่านตอนชรา มาร์โค โปโลเดินทางอยู่ทั่วจีนเป็นเวลาถึง 17 ปี ก่อนจะกลับอิตาลี บันทึกการเดินทางของมาร์โค โปโล กระตุ้นให้พวกพ่อค้าพากันมุ่งหน้าไปยังโลกตะวันออก
* ศิลปะการเขียนพู่กันจีนมีมาอย่างน้อย 4,000 ปีแล้ว
* จีนเริ่มใช้รถไฟความเร็วสูงเมื่อค.ศ. 2007 และนับเป็นประเทศที่มีโครงข่ายคมนาคมความเร็วสูงที่ยาวที่สุดในโลกในขณะนี้ และกำลังวางแผนเชื่อมต่อไปยังทวีปยุโรป
* จีนคิดค้นดินระเบิดขึ้นได้โดยความบังเอิญในศตวรรษที่ 9 ต่อมามีการนำไปผลิตดอกไม้ไฟและอาวุธสงคราม
* อาคารของจีนมากมายจะข้ามชั้นที่มีเลข 4 เพราะเสียงอ่านของเลขสี่พ้องเสียงกับคำว่า “ตาย” ดังนั้นจึงอาจไม่มีชั้น 4 ชั้น 14 และชั้นอื่นๆที่ลงด้วยเลข 4 บางทีก็ข้ามจากชั้น 39 ไป 50 เลย
หนังสือชื่อ “จีน: ทุกเรื่องที่จำเป็นต้องรู้” โดย สก็อตต์ ฟอร์บ แปลโดย มิ่งขวัญ เจริญนิจนิยม สำนักพิมพ์Amarin Comics มกราคม 2558 96 หน้า ราคา 225 บาท
——————————————————————
เกร็ดน่ารู้:
* เด็กสิงคโปร์และเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
* คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
* แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติค่ะ
มาช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการมอบหนังสือเป็นของขวัญในทุกโอกาสนะคะ
——————————————————————-
ขอเชิญติดตามหนังสือ “จีน: ทุกเรื่องที่จำเป็นต้องรู้”ได้ที่ https://goo.gl/oYTDPx
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น