คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 120 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “เอาชีวิตรอดในสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ 1” ค่ะ
=ภาพรวม=
หนังสือการ์ตูนที่มีการสลับฉากเป็นระยะๆด้วยบทความสั้นๆ และภาพถ่ายจริงแบบหนังสือเรียนประวัติศาสตร์นี้เป็นหนึ่งในซีรี่ส์การ์ตูน “เอาชีวิตรอดใน…(สถานที่ต่าง ๆ)” จากประเทศเกาหลีค่ะ ในเล่มเป็นเรื่องราวของเด็กชายชาวเกาหลีชื่อมันจูและคุณพ่อนักโบราณคดีสมัครเล่นที่เดินทางไปยังประเทศจีนเพื่อไขปริศนาพระราชวังใต้ดินของจิ๋นซีฮ่องเต้ มีเด็กหญิงผิงผิงชาวจีนผู้รอบรู้ประวัติศาสตร์เป็นไกด์ให้ การดำเนินเรื่องคล้ายกับภาพยนตร์เรื่องอินเดียน่า โจนส์ค่ะ นอกจากเรื่องราวของจิ๋นซีฮ่องเต้แล้ว ในเล่มก็ยังสอดแทรกประวัติศาสตร์ของประเทศจีนและเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น มรดกโลก อาวุธและเครื่องมือสมัยโบราณด้วย ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็อ่านได้ค่ะ อนึ่ง ในคำนำระบุด้วยว่า หลังจากรัฐบาลเกาหลีร่วมผลักดันให้มีหนังสือความรู้ในรูปแบบการ์ตูน 4 สีอย่างแพร่หลายนั้น อัตราการอ่านหนังสือของเด็กเกาหลีอายุ 9 ปีขึ้นไปได้เพิ่มขึ้นถึง 30% ทีเดียว
ในบทสนทนาของตัวละครในเล่มนี้มีสอดแทรกข้อคิดไว้ด้วยนะคะว่า “ความไม่รู้ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่ถ้าไม่มีความสนใจใคร่รู้ต่างหากถึงจะเป็นเรื่องน่าอาย” นับเป็นการปลูกฝังนิสัยการใฝ่รู้ให้กับบรรดาผู้อ่านอย่างแยบคายทีเดียวค่ะ
=น่าสนใจจากในเล่ม=
* ประเทศจีนมีประวัติศาสตร์ยาวนาน และนับเป็นหนึ่งในต้นกำเนิดอารยธรรมเก่าแก่ของโลก มีการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์มากมาย
* คำว่า China ในภาษาอังกฤษก็มาจากคำว่า Qin (ออกเสียงว่า ฉิน) ซึ่งหมายถึงรัฐฉินของจิ๋นซีฮ่องเต้ ผู้รวมรัฐต่าง ๆ ของจีนเข้าเป็นจักรวรรดิครั้งแรกสำเร็จเมื่อ 221 ปี ก่อนคริสต์ศักราชนั่นเอง
* ซือหม่าเซียน ผู้มีชีวิตอยู่ระหว่าง 145-86 ปี ก่อนคริสต์ศักราช มีพ่อเป็นขุนนางด้านประวัติศาสตร์จึงได้อ่านประวัติศาสตร์มากมายตั้งแต่เด็ก โตขึ้นได้เป็นขุนนางและออกเดินทางท่องเที่ยวศึกษาเรื่องราวต่าง ๆ อย่างหลากหลาย เขาเป็นผู้ริเริ่มบันทึก “พงศาวดารสื่อจี้” จำนวน 130 บท บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปี
* ซีอาน ที่ตั้งของสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้อยู่ใจกลางประเทศจีน เป็นเมืองขนาดใหญ่มาตั้งแต่ 1,100 ปี ก่อนคริศต์ศักราช เป็นศูนย์กลางทางการค้าและจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหม เป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ต่าง ๆ มาถึง 13 ราชวงศ์
* สุสานจิ๋นซีนี้สร้างขึ้นมาจากแนวคิด “ชีวิตหลังความตายต้องเหมือนกับเมื่อยังมีชีวิตอยู่” ดังนั้นจึงจำลองพระราชวัง ของตกแต่ง เครื่องใช้ส่วนตัว และรูปปั้นทหาร ขุนนางและนางกำนัลมาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์
* ที่สุสานจิ๋นซีมีการขุดพบหลุมบรรจุรูปปั้นทหารและม้าทั้งหมด 3 หลุม หลุมหมายเลข 1 นั้นมีขนาดใหญ่เท่ากับสนามฟุตบอล 2 สนาม และมีรูปปั้นทหาร ม้า และ รถศึก มากถึง 6,000 ชิ้น
* กองทัพใต้ดินของจิ๋นซีฮ่องเต้ทำขึ้นจากดินเผา ถูกค้นพบโดยบังเอิญขณะที่ชาวนากำลังขุดบ่อน้ำบาดาลในปีค.ศ. 1974 อยู่ห่างจากสุสานของจิ๋นซีฮ่องเต้ราว 1.5 กิโลเมตร การค้นพบครั้งนี้ทำให้คนรุ่นหลังเข้าใจเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตในประเทศจีนยุคโบราณได้เป็นอย่างดี เช่น รู้วิธีการจัดทัพของรัฐฉิน
* องค์การยูเนสโกประกาศให้หลุมรูปปั้นทหารและม้าเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปีค.ศ. 1987
* ใบหน้าของรูปปั้นดินเผาแต่ละตัวจำลองมาจากทหารจริงทั้งสิ้น ทำให้รายละเอียดต่างๆไม่ซ้ำกัน เช่น ดวงตา คิ้ว ริมฝีปาก หนวดเครา รวมถึงทรงผม
* ประเทศจีนใช้รถม้ามานานกว่า 3,700 ปี แต่รถม้าส่วนใหญ่ทำจากไม้จึงผุพังไป การขุดพบรถม้าสัมฤทธิ์พร้อมทั้งสารถีที่ถือบังเหียนในสภาพที่สมบูรณ์เห็นทุกรายละเอียดชัดจึงมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มาก
* นักวิชาการคาดว่าสุสานของจิ๋นซีฮ่องเต้ทั้งหมดมีบริเวณกว้างถึง 57 ตารางกิโลเมตร ทุกวันนี้การขุดค้นและบูรณะก็ยังดำเนินต่อไป
หนังสือชื่อ “เอาชีวิตรอดในสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ 1” เขียนโดย Hong, Jaechol และ Ryu, Giun ภาพประกอบโดย Mun, Junghoo แปลโดย กัญญารัตน์ จิราสวัสดิ์ และ จิราวรรณ บุญสืบ สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่น พิมพ์ครั้งที่ 1 กันยายน 2557 208 หน้า ราคา 165 บาท
——————————————————————
เกร็ดน่ารู้:
* เด็กสิงคโปร์และเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
* คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
* แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติค่ะ
มาช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการมอบหนังสือเป็นของขวัญในทุกโอกาสนะคะ
——————————————————————-
ขอเชิญติดตามหนังสือ “เอาชีวิตรอดในสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ 1” ได้ที่ https://goo.gl/6wxO6R
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น