วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

คนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงมีอะไรที่เหมือนกัน?


คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 181 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “ความสำเร็จ สร้างได้ด้วยสมาธิ” ค่ะ



=ภาพรวม=
ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ต้องการบอกคุณว่า  ผู้ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดระดับโลกชนิดที่เรียกว่า Top 1% นั้น ไม่ได้ก้าวขึ้นไปถึงจุดนั้นด้วยพรสวรรค์พิเศษค่ะ  แต่เป็นเพราะพวกเขามีพลังในการทำสิ่งที่หลงไหลอย่างจดจ่อต่อเนื่องและทุ่มเทอย่างที่สุด พลังดังกล่าวนี้คือ “สมาธิ” นั่นเองค่ะ
เนื้อหาในเล่มแบ่งเป็น  1) การศึกษาระดับปฐมวัยที่สร้างนิสัยแห่งความสำเร็จ  2) กรณีศึกษาของอัจฉริยบุคคลผู้เปลี่ยนโลก  3) เทคนิคที่ใคร ๆ ก็ทำได้  และ  4) การสร้างสมาธิให้องค์กร
=น่าสนใจจากในเล่ม=
*  ผู้ก่อตั้ง Google, Facebook, Wikipedia และ Amazon มีอะไรเหมือนกับบารัค โอบามา และ ฮิลลารี คลินตัน?  ทุกคนเรียนในหลักสูตรช่วงปฐมวัยหลักสูตรเดียวกัน คือ “หลักสูตรของมอนเตสซอรี”
*  มาเรีย มอนเตสซอรี จิตแพทย์หญิงชาวอิตาลีคนแรกที่ทำงานในโรงพยาบาลจิตเวชในอิตาลีช่วงต้นศตวรรษที่ 20 คิดค้นหลักสูตรการสอนเด็กปฐมวัยที่เป็นเอกลักษณ์ขึ้นมาเพื่อพัฒนาทักษะความสามารถของเด็ก
*  หลักการสำคัญคือ การเสริมสร้างความเป็นอิสระในการตัดสินใจ ให้เด็กเลือกเองว่าอยากจะทำอะไร และ พลังแห่งสมาธิ
*  เมื่อเด็กเป็นฝ่ายเลือกเองว่าอยากจะทำอะไร ก็จะสามารถมีสมาธิทำสิ่งนั้นได้อย่างจดจ่อจนทำได้สำเร็จ แล้วเกิดความพึงพอใจ สิ่งนั้นจะประทับลงไปเป็นความประทับใจของเด็กและกลายเป็นนิสัยแห่งความสำเร็จในที่สุด
*  ศาสตราจารย์ มิฮาย ชิกเซนต์มิฮายยี พบว่า ในขณะที่เรามีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างแน่วแน่จะรู้สึกเป็นสุขมาก ส่งผลให้เกิดการพัฒนาความสามารถ เขาเรียกสภาวะที่เราทุ่มเทพลังใจทั้งหมด มีสมาธิจดจ่อ มุ่งมั่นอยู่กับเป้าหมายของตัวเองว่า “สภาวะไหลลื่น (flow)”
*  วิธีสร้างสภาวะไหลลื่นที่ดีที่สุด คือ การตั้งเป้าหมายที่ท้าทายความสามารถของตนเอง และสอดคล้องกับความสามารถตนเองด้วย ไม่ยากหรือง่ายจนเกินไป
*  แม้จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็ยังสามารถพัฒนาสมาธิได้ เพราะสมองมีลักษณะเด่น คือ มีความยืดหยุ่น (brain plasticity) สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดชีวิตของเรา
*  แม่ของเซอร์เกย์ บริน หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Google กล่าวว่า “การเรียนการสอนแบบมอนเตสซอรีมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาของเขาอย่างมาก มันเป็นจุดเริ่มต้นของการคิดด้วยตัวเอง และการรู้คุณค่าของทุกสิ่งในชีวิตที่ได้ลองทำด้วยตนเอง”
*  การมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ตนเองคิดโดยไม่ยอมแพ้แรงกดดันจากภายนอกคือเคล็ดลับที่นำไปสู่ความสำเร็จของเจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งเวบ Amazon เวบไซต์ช็อปปิ้งออนไลน์อันดับ 1 ของโลก
*  สิ่งสำคัญในการเพิ่มพูนพลังแห่งสมาธิของสุดยอดเซียนหมากรุกญี่ปุ่น โยชิฮารุ ฮาบุ คือ การได้สัมผัสประสบการณ์ความสุขจากชัยชนะในช่วงแรกๆ (เขาเริ่มเล่นหมากรุกเมื่ออยู่ชั้นป.1)
*  สิ่งที่ช่วยรักษาพลังแห่งสมาธิ ไม่ใช่มีแค่สมองเท่านั้น แต่รวมไปถึงสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงอยู่เสมออีกด้วย
*  จุดเริ่มต้นของศาสตราจารย์ชินยะ ยามานากะ ผู้ค้นพบ iPS Stem Cell จนได้รับรางวัลโนเบลด้านการแพทย์คือความมุ่งมั่น “อยากทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ได้ทำ” ซึ่งก็คือ “การตัดสินใจเลือกสิ่งที่อยากทำเอง”
*  การฝึกฝนอย่างมุ่งมั่นไม่ว่าจะเป็นในการงาน ดนตรี หรือ กีฬา ด้วยระยะเวลา 10,000 ชั่วโมง จะเป็นเกณฑ์ชี้วัดความสำเร็จ (จากหนังสือ Outliers: The Story of Success โดย มัลคอล์ม แกลดเวลล์)
*  เมื่อจิตใจจดจ่อมุ่งมั่นอยู่กับสิ่งเดียว เรียกว่า “สมาธิรวมศูนย์” แต่การทำสิ่งใดให้สำเร็จจำเป็นต้องมี “สมาธิกระจายศูนย์” ด้วย (ผู้วิจารณ์อ่านแล้วรู้สึกว่าอย่างหลังคือ “ความมีสติ” ค่ะ)
*  หลัก 5S เพื่อเพิ่มพลังสมาธิ:  1) Simple ทิ้งสิ่งที่เกินความจำเป็นและทำให้เรียบง่าย  2) Small ตั้งเป้าหมายเล็กและทำสำเร็จได้ง่าย  3) Single ทำครั้งละ 1 เรื่องเท่านั้น  4) Short  ทำในช่วงเวลาสั้น ๆ  และ  5) Smile สนุกกับสิ่งที่ทำและมีทัศนคติคิดบวก
*  วิธีเอาชนะนิสัยผลัดวันประกันพรุ่ง และสร้างความรู้สึกตื่นตัว มีสมาธิจดจ่อได้ คือ การสมมติว่า “วันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต”
หนังสือชื่อ “ความสำเร็จ สร้างได้ด้วยสมาธิ” โดย Toyoshi Nagata แปลโดย ดร.ศิริลักษณ์ ศิริมาจันทร์ สำนักพิมพ์  ส.ส.ท.  มิถุนายน 2558  216 หน้า ราคา 200 บาท
—————————————————————–
สถิติน่ารู้:
*  เด็กสิงคโปร์และเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/ คน
*  คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
*  แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/ คน
คอลัมน์  “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติค่ะ
มาช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการมอบหนังสือเป็นของขวัญในทุกโอกาสนะคะ
——————————————————————-
ขอเชิญติดตามหนังสือ “ความสำเร็จ สร้างได้ด้วยสมาธิ” ได้ที่ https://goo.gl/rYZ5IH

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น