วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

วันนี้คุณวุ่นหรือว่าว่างมากกว่ากันคะ?


คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 200 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “ไม่วุ่นจะว่าง” ค่ะ



=ภาพรวม=
หนังสือเล่มบางเฉียบแต่อัดแน่นไปด้วยสาระดีๆนี้เป็นหนึ่งในซีรี่ส์หนังสือชุด “พุทธทาส ๑๐๐ ปี หนังสือดี ๑๐๐ เล่ม” ซึ่งเป็นการคัดธรรมบรรยายของท่านพุทธทาสภิกขุ 1 เรื่องมาจัดพิมพ์ขึ้น 1 เล่ม
เล่มนี้เป็นธรรมบรรยายที่ท่านพุทธทาสแสดงไว้เมื่อวันมาฆบูชา 12 กุมภาพันธ์ 2503 ค่ะ
=น่าสนใจจากในเล่ม=
*  วันมาฆบูชานี้เป็นวันที่ระลึกถึงพระอรหันต์ ซึ่งเป็นผู้ดับทุกข์ได้สิ้นเชิง จึงเลือกเอาพระพุทธภาษิตที่กล่าวถึงสุญญตา คือ ความว่าง มาแสดง
*  ยิ่งเป็นปุถุชนเท่าใด ก็ยิ่งมีความทุกข์มากเท่านั้น เพราะฉะนั้นปุถุชนนี้แหละยิ่งต้องการธรรมะที่เป็นเครื่องดับทุกข์ของพระอรหันต์มากเท่านั้น
*  ลองพิจารณาดูเอาเถิดว่า ความว่างนี้มันสำคัญอย่างไร ใครๆก็ชอบเวลาว่าง เวลาที่ทำงานยุ่งไม่มีใครชอบ เวลาว่างงานทุกคนก็ชอบ หรือเวลาที่ว่างไม่มีอะไรกวน ทุกคนย่อมจะชอบ
*  แต่เมื่อมีใครมาชวนไปวัดไปฟังเทศน์เพื่อศึกษาเรื่องความว่าง คือ พระนิพพานแล้ว กลับตอบว่าไม่ว่าง อย่างนี้นับว่าหลอกตัวเอง
*  มีพระพุทธภาษิตว่า นิพฺพานํ ปรมํ สุญฺญํ แปลว่า นิพพานเป็นของว่างอย่างยิ่งแปลว่า ถ้าเราว่างถึงที่สุด นั่นแหละ คือ นิพพาน
*  มีพระพุทธภาษิตอีกคู่หนึ่งว่า สงฺขารา ปรมา ทุกฺขา, นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ คือ สังขารเป็นทุกข์อย่างยิ่ง คือ มันวุ่นนั่นเอง ส่วนนิพพานหรือความดับเย็นสนิท เป็นสุขอย่างยิ่ง ดังนั้น ความว่างจึงเป็นสุขอย่างยิ่ง
*  เรื่องของความว่างนี้เป็นตัวแท้ตัวจริงของพระพุทธศาสนา อยู่ในพระคาถาที่พระพุทธองค์แสดงแก่ธัมมทินนะอุบาสก จะเห็นว่าทรงแสดงเรื่องความว่างนี้ให้ฆราวาสฟัง ไม่ได้แสดงให้พระที่อยู่ป่าฟัง ดังนั้นความว่างจึงเป็นเรื่องที่ฆราวาสควรจะรู้ ไม่ใช่เป็นเรื่องของพระอย่างเดียว
*  การที่ไปวุ่นวายจนไม่มีเวลามาหาธรรมะของพระพุทธเจ้าซึ่งสอนเรื่องความว่าง ไม่มีเวลาประพฤติปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า กลายเป็นวุ่นถึงที่สุดจนกระทั่งเน่าเข้าโลงไป แล้วมันจะได้อะไรที่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้เล่า
* ลองคิดดูเถิดว่า รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ในโลกมนุษย์เรา มันทำให้ว่างหรือทำให้วุ่น? คนที่เต็มไปด้วยกิเลสตัณหา ย่อมมองเห็นความวุ่นเหล่านี้ว่ามีตัวตน เว้นแต่เมื่อใดมีสติสมบูรณ์ทุกเมื่อจึงจะเห็นโลกโดยความเป็นของว่างได้
*  ถ้ามีตัวตน ความทุกข์ก็ครอบงำได้ แต่ถ้าสลัดตนไปเสียให้เป็นของว่างแล้ว ความทุกข์มันจะครอบงำใคร
*  ถ้าลงได้ชอบใจในคุณของความว่างแล้ว  พระพุทธองค์ทรงพยากรณ์ไว้ว่า บุคคลนั้นจะหลุดพ้นได้ด้วยปัญญาในชาติปัจจุบันนี้ คือเป็นพระอรหันต์ประเภทปัญญาวิมุตติได้ในชาตินี้  หรืออย่างน้อยที่สุดก็จะเข้าถึงอากิญจัญญายตนะ คือ ความเป็นอยู่ด้วยความรู้สึกว่าไม่มีอะไรที่น่าเอา น่าเป็น  ความทุกข์ครอบงำไม่ได้
*  พระพุทธองค์เคยตรัสไว้กับพระสารีบุตรว่า การเป็นอยู่ด้วยความว่างทำให้มีผิวพรรณผ่องใส
*  ถ้าจะมองสิ่งใดให้มองเห็นทั้งคุณและโทษของสิ่งนั้น  จะได้หักลบกลบกันพอดี จะได้เป็นของว่างขึ้นมา  สิ่งใดที่ท่านเก็บไว้ในหีบหวงแหนนักหนานั้น ก็จงดูมันดีๆว่ามันมีทั้งคุณและโทษ  ก็จะหยุดรัก หยุดหวงแหน หยุดวิตกกังวลเสียได้  จิตใจมันจะได้ว่าง
หนังสือชื่อ “ไม่วุ่นจะว่าง” โดย พุทธทาสภิกขุ  สำนักพิมพ์สุขภาพใจ  กุมภาพันธ์ 2551   60 หน้า ราคา 30 บาท
——————————————————————
เกร็ดน่ารู้:
*  เด็กเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
*  คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
*  แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
(ที่มา: http://goo.gl/qH2arZ และ http://goo.gl/2Ue7S3)
คอลัมน์  “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติค่ะ
มาช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการมอบหนังสือเป็นของขวัญในทุกโอกาสนะคะ
——————————————————————-
ขอเชิญติดตามหนังสือ “ไม่วุ่นจะว่าง” ได้ที่ https://goo.gl/JTJqvW

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น