วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

พระพุทธศาสนาสอนเรื่องตายแล้วเกิดไว้อย่างไร?


คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 133 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “ตายแล้วเกิด” ค่ะ



=ภาพรวม=
หนังสือเล่มนี้เขียนโดยศาสตราจารย์ แสง จันทร์งาม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านพระพุทธศาสนา เจ้าของฉายา “ปราชญ์แห่งล้านนา” ค่ะ  ท่านเป็นหนึ่งในนักวิชาการยุคแรกๆที่สามารถอธิบายพุทธศาสตร์ควบคู่ไปกับวิทยาศาสตร์ได้อย่างลุ่มลึกสอดคล้องค่ะ
เพียงแค่ดูรายชื่อบรรณานุกรมท้ายเล่มท่านผู้อ่านก็จะอึ้งแล้วเพราะในการเขียนหนังสือเล่มเล็กๆ มีเนื้อหาเพียง 60 หน้านี้อาจารย์แสงก็อ้างอิงพระไตรปิฎกและเอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้องถึง 52 แหล่งแล้ว แต่ในขณะเดียวกันวิธีเขียนก็อ่านเพลิน เข้าใจง่ายด้วยค่ะ
=โครงสร้าง=
เนื้อหาในเล่มแบ่งเป็นบทย่อย ๆ ดังนี้ค่ะ  1) ปัญหาเรื่องตายแล้วเกิด  2) ท่าที่ของพระพุทธองค์  3) การตีความเรื่องตายแล้วเกิดแบบปฏิเสธ  4) เหตุผลสนับสนุนการตายแล้วเกิด  5) รูปแบบต่างๆของการตายแล้วเกิด  6) กระบวนการตายแล้วเกิด  และ  7) การทำลายอวิชชาและการเวียนว่ายตายเกิด
=น่าสนใจจากในเล่ม=
*  ปัญหาที่ว่า คนตายแล้วเกิดอีกหรือไม้  เป็นปัญหาที่เรียกกันว่า อภิปรัชญา (metaphysical) คือปัญหาที่อยู่เหนือเรื่องของสิ่งรูปธรรม  (meta = เหนือ physical = รูปธรรม) คนจึงสงสัยกันอยู่เสมอ ในเล่มนี้จะพยายามให้คำตอบโดยอ้างอิงจากพระไตรปิฎก
*  “ท่าทีของพระพุทธองค์ที่มีต่อการตายแล้วเกิดจากในพระไตรปิฎก” มีอยู่ 4 แบบด้วยกัน  คือ
1) ถ้าบุคคลที่มาฟังพระองค์มีความเชื่อเรื่องตายแล้วเกิดอยู่แล้วอย่างมั่นคง ก็ทรงอนุโลมตาม ทรงพูดไปเรื่อย ๆ ประหนึ่งว่าการตายแล้วเกิดเป็นความจริงธรรมดา ท่าทีแบบนี้มีมากที่สุด  มีอยู่ทั่วไปในพระไตรปิฎก
2)  ถ้าคนที่มาฟังพระองค์ยังมีความสงสัยลังเล ถ้าพูดไปจะทำให้เขางงยิ่งขึ้น ก็จะทรงตัดบทออกไปเลย โดยสอนเขาว่า เรื่องนี้ไม่สำคัญ  สำคัญที่การปฏิบัติในปัจจุบัน ถ้าทำดีก็จะมีความสุขในชาตินี้ ถ้าชาติหน้ามีจริงก็จะสุขอีก ถ้าทำชั่วก็จะทุกข์ในชาตินี้ ถ้าชาติหน้ามีจริงก็จะทุกข์อีก
ท่าทีแบบนี้ทรงแสดงเป็นครั้งคราว เช่น ในคราวสอนชาวกาละมะแห่งเกสปุตตนิคม เป็นต้น (ติกนิบาต อังคุตตรนิกาย  ตท. ๒๐/๕๐๕/๒๑๓)
3) ถ้าคนที่มาฟังพระองค์ไม่เชื่อเรื่องตายแล้วเกิด แล้วมุ่งมาให้พระพุทธองค์ทรงพิสูจน์ให้ดูหรือมาถกเถียงเอาแพ้เอาชนะ  จะทรงนิ่งเสีย ไม่ต่อล้อต่อเถียงด้วย
ท่าทีแบบนี้ทรงแสดงออกเป็นครั้งคราว เช่น คราวที่ทรงตอบโต้กับพระมาลุงกยบุตร เป็นต้น (มัชฌิมปัณณาสก์ มัชฌิมนิกาย ตท. ๑๓/๑๕๐-๑๕๒/๑๓๒-๑๓๕)
4) สำหรับคนที่ไม่เชื่อเรื่องตายแล้วเกิดและมีทิฏฐิมานะรุนแรง  ยืนหยัดในความเห็นของตนแต่ไม่มีเจตนาจะรุกรานพระพุทธองค์ จะทรงปรามว่า ระวังจะเป็นมิจฉาทิฏฐิ ซึ่งจะนำไปสู่มิจฉาสังกัปปะ มิจฉาวาจา และความทุกข์ในที่สุด  ท่าทีแบบนี้ ทรงแสดงออกเป็นครั้งคราว เช่น ในอปัณณกสูตร เป็นต้น (มัชฌิมปัณณาสก์ มัชฌิมนิกาย ตท. ๑๓/๐๖/๙๒)
*  เหตุผลหนึ่งที่สนับสนุนการตายแล้วเกิดก็คือ ยามที่ 1 ในคืนที่จะทรงตรัสรู้  ทรงได้ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ  อันเป็นเหตุให้พระองค์ระลึกชาติก่อนของพระองค์ได้นับเป็นกัปเป็นกัลป์ และยามที่ 2 ทรงได้จุตูปปาตญาณ หรือ ญาณหยั่งรู้การตายและเกิดของสัตว์ทั้งปวง (โพธิราชกุมารสูตร มัชฌิมปัณณาสก์ มัชฌิมนิกาย ตท. ๑๓//๓๗๖๗)
*  ในการประกาศพระสัจจธรรมครั้งแรกแก่พระปัญจวัคคีย์ ทรงประกาศว่า “…ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย…เรายืนยันว่า…ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ภพใหม่ไม่มีอีกต่อไป…” (ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร มหาขันธกะ มหาวรรค พระวินัยปิฎก ตท. ๔/๒๘)
หนังสือชื่อ “ตายแล้วเกิด” โดย ศาสตราจารย์แสง จันทร์งาม มี 62 หน้า ราคา 75 บาท
——————————————————————
เกร็ดน่ารู้:
*  เด็กสิงคโปร์และเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
*  คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
*  แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
คอลัมน์  “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติค่ะ
มาช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการมอบหนังสือเป็นของขวัญในทุกโอกาสนะคะ
——————————————————————-
วันนี้ท่านสามารถติดตามหนังสือ“ตายแล้วเกิด”ได้ที่ https://goo.gl/jrXwfX

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น