คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” เล่มที่ 162 วันนี้ จะมาคุยถึงหนังสือชื่อ “การช่วยผู้อื่นให้มีธรรมะ” ค่ะ
=ภาพรวม=
หนังสือเล่มบางเฉียบแต่อัดแน่นไปด้วยสาระดี ๆ นี้เป็นหนึ่งในซีรี่ส์หนังสือชุด “พุทธทาส ๑๐๐ ปี หนังสือดี ๑๐๐ เล่ม” ซึ่งเป็นการคัดธรรมบรรยายของท่านพุทธทาสภิกขุ 1 เรื่องมาจัดพิมพ์ขึ้น 1 เล่ม
เล่มนี้เป็นธรรมบรรยายที่ท่านพุทธทาสแสดงไว้เมื่อ 28 กันยายน 2525 ค่ะ
=น่าสนใจจากในเล่ม=
* จำนวนคนในโลกมีหลายพันล้านแล้ว ทุกคนล้วนอยากจะอยู่อย่างสงบสุข มีแต่ธรรมะอย่างเดียวเท่านั้นที่จะทำให้เป็นเช่นนั้นได้
* ทั้งนี้เพราะธรรมะจะช่วยให้ 1) มีเมตตาสามัคคี 2) มีความเห็นเสมอกัน คือ ต้องการพ้นทุกข์ และ 3) มีการกระทำที่เสมอกัน โดยมีศีลเป็นขั้นพื้นฐาน
* เป็นหน้าที่ของคนทุกคนที่มีธรรมะแล้วที่จะต้องช่วยเหลือให้บุคคลอื่นมีธรรมะเท่าที่จะมากได้ ธรรมทานซึ่งสูงสุดกว่าทานทั้งหลายนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนควรพยายามทำ
* วัตถุทานและอภัยทาน เพียงช่วยให้อีกฝ่ายมีชีวิตรอด แต่มันยังไม่ดับทุกข์ การมีชีวิตอยู่อย่างเป็นทุกข์นั้นจะเรียกว่าดีได้อย่างไร
* คนที่พูดว่า ต้องเป็นพระอรหันต์เสียก่อนแล้วจึงจะสอนผู้อื่น ข้อนี้ไม่จริง เรารู้เท่าใด ดับทุกข์ได้เท่าใด ก็จงสั่งสอนเท่านั้น ยังมีคนที่รู้น้อยกว่าเราถมไป ตั้งแต่ลูกเด็ก ๆ หลาน ๆ ชาวบ้านต่าง ๆ เรามีความทุกข์น้อยกว่า ก็สามารถสอนคนที่มีความทุกข์มากกว่า
* ที่ลูกหลานของเราดื้อก็เพราะพวกเขาเห็นแก่ตนและยึดมั่นถือมั่นเรื่องตัวเอง เด็ก ๆ ควรจะได้รับคำสั่งสอนให้เห็นแก่ผู้อื่น เห็นแก่ธรรมะ ควรสอนให้เด็กรู้สึกได้เรื่อง “เช่นนั้นเอง”
* การทำให้ผู้อื่นมีธรรมะนั้นเป็นพระพุทธประสงค์ เห็นได้จากที่ทรงส่งภิกษุทั้งหลายไปประกาศพระศาสนาตั้งแต่ยังมีเพียง 60 รูปเท่านั้น
* ในครั้งนั้นได้ตรัสว่า “…จงไป จงไป เพื่อประโยชน์สุขเกื้อกูลแก่มหาชนทั้งเทวดาและมนุษย์…ให้แยกกันไปเป็นองค์ ๆ อย่าไปทางเดียวกัน 2 องค์ แม้ฉันก็จะไป…”
* นี่เป็นการแสดงว่า พระพุทธเจ้าท่านเห็นความสำคัญของการทำให้ผู้อื่นรู้ธรรมะ เห็นความสำคัญของธรรมทาน ไม่ได้ตรัสสรรเสริญอะไรยิ่งไปกว่าธรรมทาน ไม่ต้องลงทุนสักบาทเดียวแต่เสียเวลาบ้าง แต่ก็กลับได้บุญกุศลมากกว่าเสียเงินตั้งล้าน ๆ
* ถ้าทำได้สัก 2-3 คนมันก็คุ้มแล้ว ทำได้มากเท่าใดก็เหมือนช่วยกันสร้างโลกนี้ขึ้นมาใหม่ให้เป็นโลกของมนุษย์ที่มีสัมมาทิฏฐิ ถ้าโลกนี้มีคนที่ไม่มีธรรมะมาก คนที่มีธรรมะก็จะอยู่ไม่ได้ พระพุทธองค์คงจะทรงมองเห็นความจริงข้อนี้จึงทรงเป็นห่วงที่สุด
* พ่อแม่ควรป้องกันไม่ให้ลูกต้องตกเป็นทาสของไสยศาสตร์ตั้งแต่เด็ก ให้ลูกรู้ว่าการกระทำของตน หน้าที่ของตนนั่นแหละคือสิ่งศักดิ์สิทธิ จะต้องทำให้ถูกต้อง แล้วมันก็จะศักดิ์สิทธิ์คือช่วยได้จริง ๆ
* ถ้าสอนเด็กตั้งแต่เล็ก ๆ เด็กจะมีความเห็นแก่ตัวน้อย ไม่โกรธง่าย ไม่โลภมาก ไม่ขี้ขลาด และเมื่อเป็นวัยรุ่นขึ้นมาก็จะรู้จักบังคับกิเลส
* ถ้ารัฐบาลสามารถทำให้พลเมืองมีธรรมะได้แล้ว ก็จะหมดปัญหา ทุกคนก็จะช่วยกันรับผิดชอบ เสียสละ ทำให้บ้านเมืองอยู่รอดและพัฒนา
* ใครมีธรรมะ ธรรมะก็ช่วยคนนั้น ถ้าโลกมีธรรมะ โลกก็จะได้รับการช่วยเหลือจากธรรมะ
* วิธีการช่วยให้คนอื่นมีธรรมะจะพูดให้เขาเห็นประโยชน์ของการมีธรรมะก็ได้ พูดด้วยตัวหนังสือก็ได้ ด้วยท่าทางก็ได้ ด้วยการแสดงให้ดูก็ได้ ถ้าเขาเห็นประโยชน์เห็นอานิสงส์ของธรรมะแล้ว มันก็ง่ายที่จะชักจูงให้เขาศึกษาธรรมะที่ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
* ถ้าสนองพุทธประสงค์นี้ได้สำเร็จ ก็มีค่ามากกว่าสร้างโบสถ์ราคาร้อยล้านพันล้าน พระพุทธประสงค์ก็คือความสงบสุขของทุกชีวิต ทุกระดับนั่นเอง
* ถ้าเราทำให้เพื่อนมนุษย์ของเรามีธรรมะได้จริงก็จะเกิดโลกพระศรีอาริยเมตไตรยขึ้นมาทันทีไม่ต้องรออนาคตกาล คือโลกแห่งความเมตตาและความรัก ทุกคนมีธรรมะ
* ถ้ามีธรรมะแล้ว มนุษย์ก็จะเป็นมนุษย์ที่เต็มตามความหมายของคำว่ามนุษย์ ไม่เสียทีที่ได้เกิดมา
หนังสือชื่อ “การช่วยผู้อื่นให้มีธรรมะ” โดย พุทธทาสภิกขุ สำนักพิมพ์สุขภาพใจ ธันวาคม 2545 70 หน้า ราคา 35 บาท
——————————————————————
เกร็ดน่ารู้:
* เด็กสิงคโปร์และเวียดนามอ่านหนังสือเล่มโดยเฉลี่ยปีละ 60 เล่ม/คน
* คนไทยถึง 40% ไม่อ่านหนังสือเล่มใด ๆ เลย
* แม้ในหมู่คนไทยที่อ่านหนังสือก็อ่านโดยเฉลี่ยเพียงปีละ 4 เล่ม/คน
คอลัมน์ “ดร.ณัชร จัดหนังสือ” นี้ จึงมีขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติค่ะ
มาช่วยกันสร้างวัฒนธรรมการมอบหนังสือเป็นของขวัญในทุกโอกาสนะคะ
——————————————————————-
เชิญติดตามหนังสือ “การช่วยผู้อื่นให้มีธรรมะ” ได้ที่ https://goo.gl/Tvc00G
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น